เอเอฟพี/รอยเตอร์ – ทางการแคนาดาส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 1,600 คนเข้าสกัดไฟป่าที่ปะทุขึ้นถึง 70 จุดในรัฐแอลเบอร์ตา ซึ่งกว่าครึ่งเกิดจากฟ้าผ่าเมื่อวันอาทิตย์ (24 พ.ค.) และได้สั่งอพยพประชาชนเกือบ 7,000 คน หลังเพลิงมีแนวโน้มลุกลามสู่เขตที่อยู่อาศัย รวมไปถึงโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานวานนี้ (26)
ทางการยังได้ออกประกาศห้ามตั้งแคมป์และจุดไฟในสวนหลังบ้านทั่วทั้งรัฐแอลเบอร์ตา ขณะที่รัฐบาลกลางแคนาดากำลังพิจารณาขอการสนับสนุนจากสหรัฐฯและเม็กซิโก เนื่องจากไฟป่าประมาณ 20 จุดยังอยู่ในภาวะ “ควบคุมไม่ได้”
โอนีล คาร์เลียร์ รัฐมนตรีกระทรวงป่าไม้แห่งรัฐแอลเบอร์ตา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ไฟได้ลุกลามเข้าไปในรัศมี 20 กิโลเมตรจากบ้านเรือนประชาชนและโรงกลั่นน้ำมัน
คนงานราว 2,000 คนถูกอพยพออกจากโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท เซโนวุส และบริษัท แคนาเดียน แนเชอรัล รีซอสเซส จำกัด ในภูมิภาคโคลด์เลค เนื่องจากไฟซึ่งเผาผลาญพื้นที่ป่าราว 10,000 เฮกตาร์เสี่ยงที่จะลุกลามสู่ถนนซึ่งเป็นเส้นทางเข้า-ออกโรงกลั่น
โรงกลั่นทั้ง 2 แห่งนี้มีกำลังผลิตน้ำมันประมาณ 233,000 บาร์เรลต่อวัน หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณน้ำมันที่ผลิตได้ทั่วภูมิภาค
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรัฐแอลเบอร์ตาให้สัมภาษณ์ว่า “คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ กว่าพนักงานของเราจะเข้าถึงพื้นที่ และควบคุมเพลิงเอาไว้ได้”
ชาวบ้านอีกราว 4,700 คนในหมู่บ้านวาบาสกาก็ได้รับคำสั่งให้อพยพเช่นเดียวกัน โดยทางการได้จัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวไว้รองรับแล้ว อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ในรัฐแอลเบอร์ตายังจัดว่ามีความเสี่ยง “สูง หรือสูงมาก” ต่อการเกิดไฟป่าในระยะนี้
“สภาพอากาศจะยังคงร้อนและแห้งไปตลอดทั้งสัปดาห์... แม้พายุกำลังจะเข้า แต่คงไม่สามารถสยบไฟได้ทั้งหมด” เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เผย