ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อธิบดีกรมการปกครองยกคณะลุยตรวจศูนย์พักพิงฯ บ้านใหม่ในสอย หลังถูกไฟไหม้วอด 148 หลังคาตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ที่ผ่านมา ขณะที่ ผญบ.สะท้อนปัญหาคนในศูนย์ฯ ขาดแคลนอาหารการกินจนต้องรุกป่าทำไร่เลื่อนลอย
บ่ายวันนี้ (28 เม.ย.) นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ หลังลงพื้นที่ตรวจศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หลบหนีภัยสงครามจากการสู้รบบ้านใหม่ในสอย หมู่ที่ 4 ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ที่ถูกเพลิงไหม้ไปเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 58 จำนวน 148 หลังคา ทำให้ผู้หลบหนีภัยฯ ไร้ที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลไทยต้องให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยชน
ซึ่งระหว่างที่เดินทางเข้าตรวจพื้นที่ศูนย์พักพิงฯ ได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ที่ผ่านมาตลอดจนจำนวนของผู้หลบหนีภัยสงครามฯ ที่มีอยู่ภายในศูนย์จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมือง และได้แสดงความคิดเห็นเสนอแนะร่วมกับเจ้าหน้าที่ UNHCR ว่า ต่อไปเราต้องช่วยกันหาทางป้องกันการเกิดอัคคีภัยไม่ให้เกิดขึ้นอีก เช่น อาจให้ผู้ดูแลศูนย์ฯ ใช้เสียงประกาศออกลำโพงเพื่อปลุกกระแสการตื่นตัวเตรียมพร้อมก่อนเข้านอนเวลา 2 ทุ่มเป็นประจำทุกคืน เป็นต้น
ด้านนายประจักษ์ พิศไหว ผู้ใหญ่บ้าน บ้านในสอย หมู่ที่ 4 ต.ปางหมู กล่าวในที่ประชุมว่า ปัญหาหลักที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมได้แก่ กลุ่มผู้หลบหนีภัยฯ ได้บุกรุกตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย และทำการเกษตรทำให้เสียพื้นที่ป่าไม้เป็นจำนวนมาก เพราะประชากรภายในศูนย์พักพิงบ้านใหม่ในสอยมีจำนวนมาก อาหารการกินไม่เพียงพอต่อความต้องการ
นายกฤษฎาจึงได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่ UNHCR กลางที่ประชุม และได้คำตอบยืนยันว่าอาหารการกินไม่เพียงพอจริง เนื่องจากงบประมาณลดน้อยลง แต่ทางเจ้าหน้าที่ UNHCR รับปากว่าจะหาวิธีการแก้ไขต่อไป
จากนั้นนายกฤษฎาก็ได้เดินตรวจสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ของผู้หลบหนีภัยฯ ภายในศูนย์ และมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ พร้อมกับกล่าวว่า ในฐานะที่ตนเคยทำงานอยู่กับศูนย์อพยพมาก่อน ดูแล้วไม่มีอะไรเหมือนสมัยก่อน สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันและเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ นอกเหนือจากอุบัติภัยที่เกิดขึ้น จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ของเรา ทั้งฝ่ายราชการ ผู้แทนชาวบ้าน รัฐบาลไทย ต่างประเทศ UNHCR ร่วมมือกันออกกฎเกณฑ์ต่างๆ ขึ้นมาเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้
