พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ต้องการให้ไทยตั้งศูนย์พักพิงให้กับชาวโรฮีนจาแทนการผลักดันออกนอกประเทศ ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว แต่หากมีการทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี สำหรับการตั้งศูนย์พักพิงต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะประเทศไทยคงไม่สามารถรับชาวโรฮีนจาทั้งหมดได้ เนื่องจากไม่มีงบประมาณดูแล และรัฐบาลมีหน้าที่ที่ต้องดูแลประชาชนในประเทศอยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ละเลยการดูแลผู้อพยพ ตั้งศูนย์อพยพ 9 ศูนย์เพื่อดูแลผู้อพยพกว่า 4 แสนคน ต่อมามีการผลักดันกลับ แต่ก็ยังเหลือผู้อพยพที่ต้องดูแลกว่าแสนคน ส่วนของชาวโรฮีนจาที่ลักลอบเข้าประเทศไทยและถูกจับกุมตัวในขณะนี้ยังไม่มีการตั้งศูนย์อพยพ มีแต่สถานที่ควบคุมตัวชั่วคราวเพื่อรอดำเนินคดีและผลักดันออกนอกประเทศ แต่ระหว่างนี้ที่พบผู้อพยพเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลกำลังหาสถานที่ที่เหมาะสมในการควบคุมตัว แต่คงจะไม่ให้พื้นที่ถาวร เพราะคนไทยยังไม่ค่อยมีที่พักอาศัยเป็นของตัวเอง ซึ่งได้ทำหนังสือไปยัง UNHCR เพื่อของบประมาณสนับสนุน แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้รับหรือไม่ ขอให้องค์กรระหว่างประเทศให้ความเป็นธรรมกับประเทศไทยในฐานะประเทศที่เป็นกลาง แต่ต้องแบกรับภาระทั้งหมด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ละเลยการดูแลผู้อพยพ ตั้งศูนย์อพยพ 9 ศูนย์เพื่อดูแลผู้อพยพกว่า 4 แสนคน ต่อมามีการผลักดันกลับ แต่ก็ยังเหลือผู้อพยพที่ต้องดูแลกว่าแสนคน ส่วนของชาวโรฮีนจาที่ลักลอบเข้าประเทศไทยและถูกจับกุมตัวในขณะนี้ยังไม่มีการตั้งศูนย์อพยพ มีแต่สถานที่ควบคุมตัวชั่วคราวเพื่อรอดำเนินคดีและผลักดันออกนอกประเทศ แต่ระหว่างนี้ที่พบผู้อพยพเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลกำลังหาสถานที่ที่เหมาะสมในการควบคุมตัว แต่คงจะไม่ให้พื้นที่ถาวร เพราะคนไทยยังไม่ค่อยมีที่พักอาศัยเป็นของตัวเอง ซึ่งได้ทำหนังสือไปยัง UNHCR เพื่อของบประมาณสนับสนุน แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้รับหรือไม่ ขอให้องค์กรระหว่างประเทศให้ความเป็นธรรมกับประเทศไทยในฐานะประเทศที่เป็นกลาง แต่ต้องแบกรับภาระทั้งหมด
