เอเอฟพี - ทางการฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนหลายพันคนในพื้นที่ภาคใต้วันนี้ (29 ธ.ค.) หลังอิทธิพลของพายุโซนร้อนทำให้เกิดลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักจนน้ำท่วมหลายพื้นที่
พายุซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นว่า “เซเนียง” (Seniang) พัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดซูรีเกา เดล ซูร์ เมื่อเวลาก่อนรุ่งสาง แต่เจ้าหน้าที่ได้มีการอพยพประชาชนราว 4,000 คนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว
“ฝนตกหนักไม่หยุดมา 3 วันแล้ว” จอห์นนี พิเมนเตล ผู้ว่าการจังหวัด ซูรีเกา เดล ซูร์ ให้สัมภาษณ์ พร้อมระบุว่ายังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ยังมีชาวบ้านอีกราว 6,000 คนที่จำเป็นต้องอพยพภายในวันนี้
ระดับน้ำที่ท่วมสูงถึง 1.5 เมตรในบางพื้นที่ทำให้หน่วยกู้ภัยต้องใช้เรือยางเข้าไปช่วยเหลือคนที่ยังติดอยู่ตามบ้านเรือน และพายุยังทำให้ต้นไม้หักโค่น หลังคาบ้านเรือนถูกพัดปลิวไปหลายหลัง
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า พายุเซเนียงซึ่งมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอาจทำให้มีฝนตก “หนักถึงหนักมาก” ภายในรัศมี 300 กิโลเมตร
พายุลูกนี้กำลังเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกด้วยความเร็ว 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะข้ามผ่านภาคกลางฟิลิปปินส์ในช่วง 1-2 วันนี้
ท่าอากาศยานกรุงมะนิลาแถลงว่า อิทธิพลของพายุเซเนียงทำให้ต้องมีการยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศจำนวน 2 เที่ยว วันนี้ (29)
ซูรีเกา เดล ซูร์ ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมในภูมิภาคคารากา (Caraga) เป็นหนึ่งในจังหวัดของฟิลิปปินส์ที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมมากที่สุด
หมู่เกาะฟิลิปปินส์ต้องเผชิญพายุประมาณ 20 ลูกต่อปี และส่วนใหญ่เป็นพายุที่มีความรุนแรง
เมื่อต้นเดือนนี้ ไต้ฝุ่นฮากูปิตซึ่งเคลื่อนผ่านตอนกลางของแดนตากาล็อกด้วยความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 18 ราย ส่วนเมื่อปีที่แล้ว ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนซึ่งมีความรุนแรงขณะขึ้นฝั่งสูงสุดในประวัติศาสตร์ก็ได้ทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งเทียบเท่าสึนามิ สร้างความเสียหายยับเยินต่อเมืองชายฝั่งในภาคกลางของฟิลิปปินส์ และมีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายมากถึง 7,350 คน