นครศรีธรรมราช - น้ำป่าทะลักต่อเนื่องหลายอำเภอของ จ.นครศรีฯ เริ่มส่งผลกระทบหนัก ล่าสุด มีหนุ่มวัย 37 ปี ถูกกระแสน้ำพัดเสียชีวิตแล้ว 1 ราย รถหลายคันจมน้ำได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขณะที่ ต.กรุงชิง ถูกสั่งอพยพมาอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัย
วันนี้ (14 ธ.ค.) ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำป่าตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้ หลายอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำป่าหลากลงมาจากเทือกเขาอย่างต่อเนื่องตลอด เนื่องจากฝนยังคงตกอย่างหนักในพื้นที่ป่าเขา โดยเฉพาะในแถบอำเภอนบพิตำ อำเภอสิชล ซึ่งเป็นต้นน้ำหลักก่อนที่จะระบายมาสู่อำเภอท่าศาลา และต้นน้ำจากอำเภอลานสกา อำเภอพรหมคีรี จะเป็นต้นน้ำหลักที่ไหลมาสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช ทำให้ระดับน้ำในลำคลองหลายสายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนพื้นที่น้ำป่าไหลหลากนั้นยังคงมีความรุนแรงเป็นระยะ
โดยล่าสุด น.ส.จันทิมา ศรีนุรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 10 ตำบลกรุงชิง กว่า 200 ครัวเรือน ที่อาศัยอยู่ริมน้ำคลองกลายมาพักอาศัยอยู่ที่โรงเรียนบ้านปากลงที่ถูกดจัดเป็นศูนย์อพยพชั่วคราว โดยมีกำลังพลจากกรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 เข้าช่วยอพยพประชาชน
ขณะที่น้ำป่าได้ไหลหลากในพื้นที่บ่อทรายหมู่ที่ 8 ตำบลนบพิตำ อำเภอนบพิตำ ทำให้เครื่องจักรกลโดยเฉพาะรถแบ็กโฮ รถยนต์ และจักรยานยนต์หลายคันจมอยู่ใต้กระแสน้ำ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทัน มูลค่าเสียหายนับล้านบาท ส่วนที่บ้านคลองแคว ตำบลนาเรียง อำเภอพรหมคีรี น้ำป่าได้พัดเอาชายหนุ่มสูญหายไปกับกระแสน้ำ ต่อมาได้ค้นพบศพ คือ นายมีชัย รักขนาน อายุ 37 ปี ชาวตำบลนาเคียน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งประสานเพื่อหาญาติ
นอกจากนั้น ในอำเภอสิชล น้ำป่าได้หลากลงมาในพื้นที่ตำบลเสาเภา ตำบลเทพราช หลายครอบครัวได้รับผลกระทบ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายปึกรบพิเศษที่ 4 อำเภอสิชลเข้าให้การช่วยเหลือ