(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Pan Sutong: Making a long story short
Author: Asia Unhedged
22/05/2015
หุ้น ฮาเนอร์จี ราคาดำดิ่งทะลุดิน 47% ทำให้มูลค่าตามราคาตลาดหายไป 19,000 ล้านดอลลาร์เมื่อวันพุธ (20 พ.ค.) ส่งผลกระทบให้ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงทั้งตลาดพากันตกระเนระนาด ปรากฏว่าก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน หลี่ เหอจิว์น ประธานของบริษัท ได้ทำชอร์ต (short) หุ้นของบริษัทที่ตัวเขาเองเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหารแห่งนี้ ทั้งนี้ปกติแล้วเวลาที่นักลงทุนทำชอร์ตหุ้นตัวไหน ก็คือเมื่อพวกเขาคิดว่าราคาของหุ้นตัวนั้นกำลังจะตกลงมา
ยังจำ พาน ซูทง (Pan Sutong) ได้ไหมครับ เขาก็คือผู้ประกอบการที่สูญเสียเงินไป 21,000 ล้านดอลลาร์ภายในเวลา 2 วัน เมื่อตอนที่เกิดข่าวร้ายขึ้นที่ ฮาเนอร์จี ธิน ฟิล์ม โซลาร์ กรุ๊ป (Hanergy Thin Film Solar Group) จนกระทั่งส่งผลทำให้ราคาหุ้นของบริษัทต่างๆ ในฮ่องกงของ พาน ตลอดจนตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงทั้งตลาดตกกันระเนระนาด พานยังอยู่ในอาการใจเย็นมากเกี่ยวกับการสูญเสียคราวนี้ตอนที่พูดคุยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม (ดูรายละเอียดในต้นฉบับภาษาอังกฤษได้ที่ ‘Don’t cry for me’ Goldin chief loses $21 billion in 2 days http://atimes.com/2015/05/pan-sutong-making-a-long-story-short/ หรืออ่านฉบับเก็บความเป็นภาษาไทยได้ที่ เจ้าของบริษัท “โกลดิน” ไม่แคร์แม้สูญเงินไป 21,000 ล้านดอลลาร์ในเวลา 2 วัน
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000058984 )
แต่มาถึงวันนี้เขาอาจจะเปลี่ยนความคิดไปก็เป็นได้
ทั้งนี้มีข้อเท็จจริงปรากฏออกมาว่า เพียงไม่กี่วันก่อนหน้าที่หุ้น ฮาเนอร์จี จะราคาดำดิ่งทะลุดิน หลี่ เหอจิว์น (Li Hejun) ปรธานของบริษัท ได้ทำชอร์ต (short) หุ้นของบริษัทที่ตัวเขาเองเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหารแห่งนี้ ปกติแล้วเวลาที่นักลงทุนทำชอร์ตหุ้นตัวไหน ก็คือเมื่อพวกเขาคิดว่าราคาของหุ้นตัวนั้นกำลังจะตกลงมา
ในวันพุธ (20 พ.ค.) หุ้น ฮาเนอร์จี หล่นตุ๊บลงมา 47% จริงๆ ทำให้มูลค่าตามราคาตลาดของมันสูญหายไป 19,000 ล้านดอลลาร์ก่อนที่จะถูกสั่งระงับการซื้อขายชั่วคราว บริษัทไม่ได้มีการแถลงชี้แจงใดๆ เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้มีการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้
“หลี่ซื้อหุ้น ฮาเนอร์จี เพิ่มอีก 26.4 ล้านหุ้น ณ ราคาเฉลี่ยที่หุ้นละ 7.28 ดอลลาร์ฮ่องกงเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ทั้งนี้ตามรายงานการซื้อขาย 2 รายการแยกกันซึ่งแจ้งไปถึงตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในวันศุกร์ (22 พ.ค.) เขายังได้เพิ่มการทำชอร์ตของเขาขึ้นเป็น 7.71% ของทุนที่ออกเป็นหุ้นไปแล้วของฮาเนอร์จี จากระดับ 5.81% ในวันเดียวกัน” บลูมเบิร์กรายงาน “ทั้งนี้บริษัทไม่ได้ชี้แจงใดๆ เกี่ยวกับสาเหตุที่มีความเคลื่อนไหวเช่นนี้ รวมทั้งในรายงานที่แจ้งต่อตลาดก็ไม่ได้ชี้แจงเรื่องการทำชอร์ตของหลี่”
ราคาหุ้นของ ฮาเนอร์จี ทะยานขึ้นไปถึง 500% ในปีที่ผ่านมา จนกระทั่งทำให้บริษัทแห่งนี้มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 300,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งสูงกว่าบริษัทโซนี่เสียอีก ดังนั้นจึงมีพวกมืออาชีพ พากันทำชอร์ตหุ้นตัวนี้ เนื่องจากคาดหมายว่ามันจะต้องตกลงมาในเร็ววัน ขณะเดียวกันก็เริ่มปรากฏข่าวลือเรื่องการปั่นหุ้น
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกทำชอร์ตมืออาชีพกำลังท้อใจ หลังจากราคาของหุ้นตัวนี้ยังไม่ยอมหล่นลงมาเสียที โดยที่ ณ วันที่ 18 พ.ค. พวกเขาถือหุ้นของฮาเนอร์จีเอาไว้คิดเป็นเพียง 3.1% ของหุ้นที่ออกมาแล้วของบริษัทแห่งนี้ หลี่ก็ได้ฉวยจังหวะนั้นซื้อหุ้นเพิ่มและทำชอร์ตเพิ่ม บลูมเบิร์กกล่าวว่า หลี่ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัททำอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงแห่งนี้ ไม่เคยอธิบายเลยว่าทำไมเขาจึงทำชอร์ตหุ้นตัวนี้
เราลองมาคาดเดาสิ่งที่พอเห็นๆ กันอยู่ก็แล้วกัน หลี่ชอร์ตหุ้นตัวนี้ ก็ด้วยเหตุผลอย่างเดียวกับที่ใครๆ เขาทำชอร์ตกันนั่นแหละ คือเขาคาดหมายว่าราคาของมันกำลังจะตกลงมา ทว่าสิ่งที่ไม่เหมือนกับการทำชอร์ตของคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ ได้แก่การที่ตัวเขาเองมีอำนาจที่จะทำให้ราคาของหุ้นตัวนี้ตกลงมาเสียด้วย
อย่างไรก็ตาม เอเชียอันเฮดจ์ไม่ใช่พวกมองโลกในแง่เลวร้ายและคอยเอาแต่เย้ยเยาะหยามหยัน หากแต่เห็นว่ามันมีแรงจูงใจที่จะทำให้มนุษย์สามารถแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ได้อยู่แล้ว
ส่วนที่ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลในวงกว้างกว่านี้หรือเปล่า คำตอบก็คือไม่น่าจะมี
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
Pan Sutong: Making a long story short
Author: Asia Unhedged
22/05/2015
หุ้น ฮาเนอร์จี ราคาดำดิ่งทะลุดิน 47% ทำให้มูลค่าตามราคาตลาดหายไป 19,000 ล้านดอลลาร์เมื่อวันพุธ (20 พ.ค.) ส่งผลกระทบให้ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงทั้งตลาดพากันตกระเนระนาด ปรากฏว่าก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน หลี่ เหอจิว์น ประธานของบริษัท ได้ทำชอร์ต (short) หุ้นของบริษัทที่ตัวเขาเองเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหารแห่งนี้ ทั้งนี้ปกติแล้วเวลาที่นักลงทุนทำชอร์ตหุ้นตัวไหน ก็คือเมื่อพวกเขาคิดว่าราคาของหุ้นตัวนั้นกำลังจะตกลงมา
ยังจำ พาน ซูทง (Pan Sutong) ได้ไหมครับ เขาก็คือผู้ประกอบการที่สูญเสียเงินไป 21,000 ล้านดอลลาร์ภายในเวลา 2 วัน เมื่อตอนที่เกิดข่าวร้ายขึ้นที่ ฮาเนอร์จี ธิน ฟิล์ม โซลาร์ กรุ๊ป (Hanergy Thin Film Solar Group) จนกระทั่งส่งผลทำให้ราคาหุ้นของบริษัทต่างๆ ในฮ่องกงของ พาน ตลอดจนตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงทั้งตลาดตกกันระเนระนาด พานยังอยู่ในอาการใจเย็นมากเกี่ยวกับการสูญเสียคราวนี้ตอนที่พูดคุยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม (ดูรายละเอียดในต้นฉบับภาษาอังกฤษได้ที่ ‘Don’t cry for me’ Goldin chief loses $21 billion in 2 days http://atimes.com/2015/05/pan-sutong-making-a-long-story-short/ หรืออ่านฉบับเก็บความเป็นภาษาไทยได้ที่ เจ้าของบริษัท “โกลดิน” ไม่แคร์แม้สูญเงินไป 21,000 ล้านดอลลาร์ในเวลา 2 วัน
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000058984 )
แต่มาถึงวันนี้เขาอาจจะเปลี่ยนความคิดไปก็เป็นได้
ทั้งนี้มีข้อเท็จจริงปรากฏออกมาว่า เพียงไม่กี่วันก่อนหน้าที่หุ้น ฮาเนอร์จี จะราคาดำดิ่งทะลุดิน หลี่ เหอจิว์น (Li Hejun) ปรธานของบริษัท ได้ทำชอร์ต (short) หุ้นของบริษัทที่ตัวเขาเองเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหารแห่งนี้ ปกติแล้วเวลาที่นักลงทุนทำชอร์ตหุ้นตัวไหน ก็คือเมื่อพวกเขาคิดว่าราคาของหุ้นตัวนั้นกำลังจะตกลงมา
ในวันพุธ (20 พ.ค.) หุ้น ฮาเนอร์จี หล่นตุ๊บลงมา 47% จริงๆ ทำให้มูลค่าตามราคาตลาดของมันสูญหายไป 19,000 ล้านดอลลาร์ก่อนที่จะถูกสั่งระงับการซื้อขายชั่วคราว บริษัทไม่ได้มีการแถลงชี้แจงใดๆ เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้มีการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้
“หลี่ซื้อหุ้น ฮาเนอร์จี เพิ่มอีก 26.4 ล้านหุ้น ณ ราคาเฉลี่ยที่หุ้นละ 7.28 ดอลลาร์ฮ่องกงเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ทั้งนี้ตามรายงานการซื้อขาย 2 รายการแยกกันซึ่งแจ้งไปถึงตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในวันศุกร์ (22 พ.ค.) เขายังได้เพิ่มการทำชอร์ตของเขาขึ้นเป็น 7.71% ของทุนที่ออกเป็นหุ้นไปแล้วของฮาเนอร์จี จากระดับ 5.81% ในวันเดียวกัน” บลูมเบิร์กรายงาน “ทั้งนี้บริษัทไม่ได้ชี้แจงใดๆ เกี่ยวกับสาเหตุที่มีความเคลื่อนไหวเช่นนี้ รวมทั้งในรายงานที่แจ้งต่อตลาดก็ไม่ได้ชี้แจงเรื่องการทำชอร์ตของหลี่”
ราคาหุ้นของ ฮาเนอร์จี ทะยานขึ้นไปถึง 500% ในปีที่ผ่านมา จนกระทั่งทำให้บริษัทแห่งนี้มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 300,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งสูงกว่าบริษัทโซนี่เสียอีก ดังนั้นจึงมีพวกมืออาชีพ พากันทำชอร์ตหุ้นตัวนี้ เนื่องจากคาดหมายว่ามันจะต้องตกลงมาในเร็ววัน ขณะเดียวกันก็เริ่มปรากฏข่าวลือเรื่องการปั่นหุ้น
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกทำชอร์ตมืออาชีพกำลังท้อใจ หลังจากราคาของหุ้นตัวนี้ยังไม่ยอมหล่นลงมาเสียที โดยที่ ณ วันที่ 18 พ.ค. พวกเขาถือหุ้นของฮาเนอร์จีเอาไว้คิดเป็นเพียง 3.1% ของหุ้นที่ออกมาแล้วของบริษัทแห่งนี้ หลี่ก็ได้ฉวยจังหวะนั้นซื้อหุ้นเพิ่มและทำชอร์ตเพิ่ม บลูมเบิร์กกล่าวว่า หลี่ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัททำอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงแห่งนี้ ไม่เคยอธิบายเลยว่าทำไมเขาจึงทำชอร์ตหุ้นตัวนี้
เราลองมาคาดเดาสิ่งที่พอเห็นๆ กันอยู่ก็แล้วกัน หลี่ชอร์ตหุ้นตัวนี้ ก็ด้วยเหตุผลอย่างเดียวกับที่ใครๆ เขาทำชอร์ตกันนั่นแหละ คือเขาคาดหมายว่าราคาของมันกำลังจะตกลงมา ทว่าสิ่งที่ไม่เหมือนกับการทำชอร์ตของคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ ได้แก่การที่ตัวเขาเองมีอำนาจที่จะทำให้ราคาของหุ้นตัวนี้ตกลงมาเสียด้วย
อย่างไรก็ตาม เอเชียอันเฮดจ์ไม่ใช่พวกมองโลกในแง่เลวร้ายและคอยเอาแต่เย้ยเยาะหยามหยัน หากแต่เห็นว่ามันมีแรงจูงใจที่จะทำให้มนุษย์สามารถแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ได้อยู่แล้ว
ส่วนที่ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลในวงกว้างกว่านี้หรือเปล่า คำตอบก็คือไม่น่าจะมี
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)