รอยเตอร์ – จรวดนำส่งรุ่นโปรตอน-เอ็ม (Proton-M) ที่บรรทุกดาวเทียมดวงหนึ่งของเม็กซิโกเกิดทำงานผิดปกติและตกลงในไซบีเรียไม่นานหลังจากการปล่อยตัวในวันนี้ (16) ซึ่งถือเป็นเคราะห์ร้ายครั้งล่าสุดในหลายๆ ครั้งสำหรับอุตสาหกรรมอวกาศรัสเซีย
ช่วงระยะที่สามของจรวดลำนี้ที่บรรทุกดาวเทียมสื่อสาร MexSat-1 ประสบกับปัญหาหลังจากที่ถูกปล่อยจากฐานปล่อยจรวด “ไบโคนูร์ คอสโมโดรม” ในคาซัคสถานราว 500 วินาที สื่อแดนหมีขาวรายงานโดยอ่างจากคำพูดของเจ้าหน้าที่อวกาศรัสเซีย
ในขณะนี้ยังไม่มีการพิสูจน์หาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งทำให้ดาวเทียมดวงดังกล่าวไม่ถูกนำขึ้นสู่วงโคจร สำนักข่าว RIA รายงานโดยอ้างจากคำพูดของเจ้าหน้าที่อวกาศรายหนึ่งว่า ในตอนนี้การปล่อยจรวดนำส่งทั้งหมดจะถูกระงับชั่วคราว
ในตอนที่มันตกลงมายังแคว้นชีตาของไซบีเรีย ช่วงระยะสุดท้ายของจรวดโปรตอนอาจยังมีเฮปทิล ซึ่งเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงขับเคลื่อนจรวดที่เป็นพิษสูง หลงเหลืออยู่ประมาณ 2-3 ตัน รายงานระบุโดยอ้างจากคำพูดของเจ้าหน้าที่อวกาศรายหนึ่ง
จรวดขับดันหนักโปรตอนของรัสเซีย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันภายใต้รหัส UR-500 ได้ถูกจัดทดสอบบินครั้งแรกในช่วงกลางทศวรรษ 1960
เดิมทีมันถูกออกแบบมาเพื่อเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่จะบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งพุ่งเป้าที่ปฏิปักษ์ช่วงสงครามเย็นของสหภาพโซเวียตอย่างสหรัฐฯ แต่มันกลับไม่เคยถูกใช้เป็นอาวุธนิวเคลียร์เลย
อุตสาหกรรมอวกาศของแดนหมีขาว ซึ่งบุกเบิกการสำรวจอวกาศด้วยการปล่อยดาวเทียมดวงแรกและนำมนุษย์คนแรกขึ้นสู่อวกาศ ได้ถูกตามหลอกหลอนจากอุบัติเหตุครั้งต่างๆ ที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับชื่อเสียงของตน
ในช่วงปลายเดือนเมษายน รัสเซียได้ล้มเลิกภารกิจส่งเสบียงให้กับสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) ซึ่งมีมูลค่าถึง 2,600 ล้านรูเบิล หลังจากที่ยานขนส่ง "โปรเกรส M-27 M" ประเภทไร้มนุษย์ควบคุมที่บรรทุกเสบียงเกือบ 3 ตันไม่สามารถทำการลงจอดบนไอเอสได้ด้วยปัญหาหลายๆ ประการ
ในเดือนกรกฎาคมปี 2013 จรวดนำส่งโปรตอนลำหนึ่งที่บรรทุกดาวเทียมนำร่อง 3 ดวงมูลค่าสูงถึง 200 ล้านดอลลาร์ เกิดร่วงตกไม่นานหลังจากที่ถูกปล่อยจากฐานปล่อยจรวด “ไบโคนูร์ คอสโมโดรม” ของรัสเซีย