ผู้นำยูเครนประกาศใช้กม.แบนสัญลักษณ์ “โซเวียต-คอมมิวนิสต์-นาซี”

เอเอฟพี – ประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน ลงนามประกาศใช้กฎหมายแบนสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาชวนเชื่อในยุคสหภาพโซเวียต ลัทธิคอมมิวนิสต์ และนาซี เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) หลังจากที่ร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้ว และเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากแดนหมีขาว

มาตรการทางกฎหมายครั้งนี้เป็นความพยายามล่าสุดของยูเครนที่จะตัดขาดสัมพันธ์กับสหภาพโซเวียต ท่ามกลางวิกฤตสู้รบกับกบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกที่เชื่อว่าได้มอสโกคอยหนุนหลังอยู่

กฎหมายฉบับนี้ “ห้ามการใช้สื่อสัญลักษณ์ยุคสหภาพโซเวียต ประณามระบอบคอมมิวนิสต์ เปิดเผยแฟ้มจดหมายเหตุของหน่วยตำรวจลับโซเวียต” และเชิดชูบทบาทของกลุ่มชาตินิยมที่ต่อสู้เพื่อเอกราชยูเครนในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 อย่างเป็นทางการ

รัสเซียติเตียนกฎหมายของยูเครนฉบับนี้ว่าเป็น “เผด็จการ” และยิ่งทำให้การสู้รบในยูเครนตะวันออกตึงเครียดหนัก หลังจากที่รัฐสภากรุงเคียฟผ่านร่างกฎหมายนี้อย่างรวดเร็วเมื่อเดือนเมษายน

ผลจากการบังคับใช้กฎหมายจะทำให้ธงสัญลักษณ์โซเวียตเป็นของต้องห้าม รูปปั้น เลนิน ที่สร้างไว้ตั้งแต่ยูเครนยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตจะต้องถูกทุบทำลาย และต้องมีการเปลี่ยนชื่อจตุรัสกลางเมืองทุกแห่ง นอกจากนี้ยังห้ามใช้สัญลักษณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับนาซีด้วย

ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกระหว่าง 5-10 ปี

กองกำลังก่อความไม่สงบยูเครน (Ukrainian Insurgent Army) ที่ได้รับการเชิดชูเกียรติด้วยกฎหมายฉบับนี้ เคยมีแนวโน้มเอียงข้างนาซีในระยะแรกๆ ก่อนจะหันมาเป็นปฏิปักษ์กับทั้งนาซีและสหภาพโซเวียต รัสเซียมักประณามกองกำลังกลุ่มนี้ว่าเป็นพวกชาตินิยมหัวรุนแรง “ฟาสซิสต์”

ชะตากรรมของรูปปั้น เลนิน จำนวนมากมายในยูเครนเริ่มเป็นที่พูดถึงตั้งแต่ปลายปี 2013 หลังจากชาวยูเครนที่ฝักใฝ่ตะวันตกได้ลุกฮือประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ จนทำให้อดีตประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช ผู้เอียงข้างรัสเซียถูกโค่นอำนาจ และนำมาซึ่งความขัดแย้งอันเป็นต้นตอของสงครามยูเครนตะวันออก