เอเอฟพี - เรือ 4 ลำที่บรรทุกผู้อพยพชาวโรฮีนจาราว 1,400 คนได้ถูกกู้นอกชายฝั่งของอินโดนีเซียและมาเลเซียในวันนี้ (11 พ.ค.) เจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุ หนึ่งวันหลังจากที่ผู้อพยพอีกเกือบ 600 คนเดินทางมาถึงนอกชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์ด้วยเรือไม้ลำหนึ่ง
เรือทั้งหมดนี้ดูเหมือนว่าจะถูกปล่อยทิ้งในขณะที่ประเทศไทยซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางโดยปกติของพวกเขา ดำเนินการปราบปรามการลักลอบขนชาวมุสลิมโรฮีนจาไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ภายหลังการค้นพบศพหลายสิบศพในหลุมศพจำนวนมากที่ “ค่ายทาส” ในภาคใต้ของไทย
ผู้อพยพจากบังกลาเทศและพม่ากว่า 1,000 คนขึ้นฝั่งที่มาเลเซีย หลังจากถูกกลุ่มค้ามนุษย์ปล่อยทิ้งในพื้นที่น้ำตื้นนอกเกาะตากอากาศลังกาวี ตำรวจระบุ
“เราคิดว่ามีเรือ 3 ลำ ที่พาผู้อพยพ 1,018 คนข้ามฟากมา” จามิล อาห์เหม็ด รองผู้บัญชาการตำรวจเกาะลังกาวีกล่าว และเสริมว่าจำนวนดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีผู้อพยพถูกช่วยขึ้นมารอบๆ เกาะนี้เพิ่มเติม
ในช่วงเช้ามืดของวันนี้ (11) ทีมค้าหาและกู้ภัยของอินโดนีเซียได้พบเรืออีกลำล่องลอยอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของจังหวัดอาเจะห์พร้อมกับคน 400 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้หญิงและเด็กจากพม่าและบังกลาเทศ บูเดียวัน หัวหน้าทีมค้นหาและกู้ภัยของจังหวัดอาเจะห์บอกกับเอเอฟพี
ทางการกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงของผู้อพยพเพิ่มเติม และได้เกณฑ์ชาวประมงกลุ่มหนึ่งเพื่อช่วยเหลือในตรวจการณ์ชายฝั่งของจังหวัดทางตะวันตกของแดนอิเหนาที่อยู่ห่างไกลแห่งนี้
พม่าซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธมองว่าชาวโรฮีนจาที่มีอยู่ราว 800,000 คนในประเทศนั้นเป็นผู้อพยพเถื่อนชาวบังกลาเทศ และพวกเขาตกเป็นเป้าหมายในการปะทุขึ้นของความรุนแรงระหว่างศาสนาที่พม่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทำให้คนกลุ่มนี้จำนวนมากต้องหลบหนีออกมา
หลายพันคนตัดสินใจเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลอย่างอันตรายจากพม่าไปยังภาคใต้ของประเทศไทย และคาดหวังว่าจะได้ไปถึงมาเลเซียที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม แต่พวกเขาจำนวนมากมักตกเป็นเหยื่อของกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์ในไทย