พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 26 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 26-28 เมษายน ว่า ประเทศไทยได้สนับสนุนให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางของการเป็นประชาคมอาเซียน การส่งเสริมเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง หลีกเลี่ยงเป็นคู่แข่งสินค้าเกษตร โดยเฉพาะการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี เนื่องจากเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของมูลค่าการส่งออก
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีการรับรองปฏิญญาร่วมกัน 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ว่าด้วยประชาชนเป็นศูนย์กลาง ปฏิญญาลังกาวี ว่าด้วยการยึดแนวทางสายกลาง ยอมรับความแตกต่างในภูมิภาค เพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนมีความสงบและสันติ และปฏิญญาว่าด้วยการสร้างประชาคมและประชาชนอาเซียนที่มีความเข้มแข็ง รู้รับ ปรับตัว ฟื้นกลับจากภัยพิบัติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นทางการ สะท้อนถึงความร่วมมือในการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
ส่วนการหารือระดับผู้นำอาเซียน เน้นการหารือเพื่อสร้างความเข้มแข็ง และอยู่บนผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมส่งเสริมการสร้างเครือข่ายให้กับทายาทอาเซียนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ที่มีศักยภาพในอนาคต เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจอาเซียนโดยรวม
ขณะที่ในวันนี้ (28 เม.ย.) นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกรอบความร่วมมือการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ครั้งที่ 9 ในเรื่องการพัฒนาความเชื่อมโยงของ 3 ประเทศใน 6 ด้าน ประกอบด้วย การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว การเกษตร อุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และการขนส่ง ผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีการรับรองปฏิญญาร่วมกัน 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ว่าด้วยประชาชนเป็นศูนย์กลาง ปฏิญญาลังกาวี ว่าด้วยการยึดแนวทางสายกลาง ยอมรับความแตกต่างในภูมิภาค เพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนมีความสงบและสันติ และปฏิญญาว่าด้วยการสร้างประชาคมและประชาชนอาเซียนที่มีความเข้มแข็ง รู้รับ ปรับตัว ฟื้นกลับจากภัยพิบัติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นทางการ สะท้อนถึงความร่วมมือในการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
ส่วนการหารือระดับผู้นำอาเซียน เน้นการหารือเพื่อสร้างความเข้มแข็ง และอยู่บนผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมส่งเสริมการสร้างเครือข่ายให้กับทายาทอาเซียนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ที่มีศักยภาพในอนาคต เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจอาเซียนโดยรวม
ขณะที่ในวันนี้ (28 เม.ย.) นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกรอบความร่วมมือการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ครั้งที่ 9 ในเรื่องการพัฒนาความเชื่อมโยงของ 3 ประเทศใน 6 ด้าน ประกอบด้วย การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว การเกษตร อุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และการขนส่ง ผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
