เอเอฟพี – สตรีชาวญี่ปุ่นวัย 86 ปีรายหนึ่งถูกจับกุม หลังถูกตั้งข้อหาว่ารับเงินบำนาญเลี้ยงชีพของพ่อแม่เป็นเวลากว่า 50 ปี หลังจากที่พวกเขาเสียชีวิตแล้ว ตำรวจ ระบุวันนี้ (8)
มิตซุย ซูซูกิ เชื่อว่าเก็บเงินได้กว่า 50 ล้านเยน (ราว 13 ล้านบาท) ตลอด 50 ปีสุดท้ายสำหรับพ่อแม่ของเธอ ซึ่งหากไม่ได้เสียชีวิตในปี 1960 ในตอนนี้พวกเขาจะอยู่ในหมู่ผู้ที่อายุยืนที่สุดในโลก
คดีนี้เป็นคดีล่าสุดในหลายๆ คดีในแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศซึ่งมีการจ่ายสวัสดิการต่อไปเป็นเวลานานหลังจากการเสียชีวิตของบางบุคคล
ในบางกรณี ผู้อ้างสิทธิถึงกับอาศัยอยู่กับศพของญาติที่เสียชีวิตไปแล้วเพื่อที่จะรับเงินก้อนดังกล่าวต่อไป
การกระทำผิดของ ซูซูกิ แดงเออกมาหลังจากที่เจ้าหน้าที่สำนักงานบำเหน็จบำนาญรายหนึ่งติดต่อทางการท้องถิ่นในจังหวัดกิฟุ ภาคกลางของญี่ปุ่น เพื่อสอบถามเรื่องสุขภาพของสตรีรายหนึ่งที่อายุ 110 ปี และสามีของเธอที่อายุ 112 ปี
ทั้งนี้ ชายผู้ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลกคือ ซาการิ โมโมอิ วัย 112 ปี
แต่เจ้าหน้าที่จังหวัดกิฟุบอกว่า คนทั้งสองเสียชีวิตไปนานแล้ว และมีการออกใบมรณะบัตรสำหรับพวกเขาแล้วในปี 1960
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งที่สำนักงานตำรวจจังหวัดกิฟุ บอกกับเอเอฟพีว่า ซูซูกิ ถูกจับฐานรับเงิน 2.6 ล้านเยน (ราว 720,000 บาท) ระหว่างเดือนเมษายน 2013 – เดือนธันวาคม 2014
เจ้าหน้าสืบสวนกำลังตรวจสอบว่าพวกเขาจะสามารถขยายช่วงเวลาดังกล่าวให้ครอบคลุมการอ้างสิทธิครั้งอื่นๆ โดยไม่ติดปัญหาเรื่องอายุความได้หรือไม่
ซูซูกิ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ ระบุ
ด้วยความที่เป็นสังคมผู้สูงอายุ จึงไม่แปลกที่ญี่ปุ่นจะมีการโกงเงินบำนาญ ในปี 2010 ตำรวจได้จับกุมครอบครัวหนึ่งในกรุงโตเกียวฐานเก็บเงินบำนาญ 18 ล้านเยน ( ราว 5 ล้านบาท) ตลอดช่วง 30 ปีหลังจากการเสียชีวิตของ โซเง็น โกโตะ
ครอบครัวของ โกโตะ ไม่ได้รายงานการเสียชีวิตของเขา และเก็บรักษาศพดองของเขาไว้ที่บ้าน โดยระบุ เขาต้องการกลายเป็นพระพุทธเจ้า (living Buddha)
ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดฉากการสืบสวนผู้เฒ่าผู้แก่ที่สาบสูญ แต่ยังคงรับเงินบำนาญอยู่
การจ่ายงเงินให้กับผู้รับบำนาญที่สาบสูญราว 1,700 คนได้ถูกระงับลงนับตั้งแต่การสืบสวนดังกล่าวเริ่มขึ้น