เอเจนซีส์ - ในพิธีสวนสนามวันแห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 กลางกรุงมอสโกที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตรียมเปิดตัวรถถังแห่งอนาคต “T-14 Armata” ที่ปฎิวัติใหม่ถอดด้ามนับตั้งแต่ปี 1993 ในยุครถถัง T-90 ที่มาพร้อมระบบปืนใหญ่ที่ถูกควบคุมได้จากระยะไกล รวมไปถึงระบบป้องกันสำหรับพลขับภายในตัวรถถังเหนือกว่ายุทโธปกรณ์ของชาติตะวันตกอื่นๆทั้งหมด ซึ่ง T-14 Armata เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ 10 ปีของปูตินในงบประมาณมูลค่า 20 ล้านล้านรูเบิล (254 พันล้านปอนด์) ซึ่งในงานนี้ บรรดาผู้นำร่วม 26ชาติตอบตกลงเข้าร่วมนั้น จะมีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงรวมอยู่ในนั้นด้วย
เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(4)ว่า ในพิธีสวนสนามวันแห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นกลางกรุงมอสโกในวันที่ 9 พฤษภาคมที่จะถึงนี้คล้ายวันครบรอบรำลึกครั้งที่ 70 ที่สามารถโค่นล้มรัฐบาลนาซีเยอรมันลงได้ในปี 1945 และรัฐบาลรัสเซียมีแผนที่จะเปิดตัวรถถัง “T-14 Armata” ที่เป็นผลงานจากโครงการพัฒนาอาวุธ 10ปี มูลค่า20 ล้านล้านรูเบิล (254 พันล้านปอนด์)ของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินในวันนั้น
ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญว่า T-14 Armata จะสามารถสยบรถถังจากชาติตะวันตกได้ทั้งหมดด้วยระบบปืนใหญ่ที่ถูกควบคุมได้จากระยะไกล รวมไปถึงระบบป้องกันสำหรับพลขับภายในตัวรถถัง นับเป็นนวัตกรรมก้าวหน้าครั้งใหญ่นับตั้งแต่การเปิดตัวรถถัง T-90ในปี 1993
ทั้งนี้มีกำหนดว่าจะมีการเริ่มทดสอบรถถังT-14 Armataภายในปีหน้า
สื่ออังกฤษยังรายงานต่อว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียนอกจากจะเปิดตัว T-14 Armata ในวันดังกล่าวแล้ว ทางกระทรวงมีแผนที่จะเปิดตัวยุทโธปกรณ์อื่นๆควบคู่ไปด้วย และพบว่าได้มีการพัฒนายุทโธปกรณ์หลายอย่างในปีที่ผ่านมา และทำให้กองทัพรัสเซียมีฝูงเครื่องบินรบใหม่ จรวดมิสไซล์ และรถหุ้มเกราะเป็นจำนวนมากนับตั้งแต่การล่มลงของอดีตสหภาพโซเวียตในปี 1991 เป็นต้นมา
และพบว่างบประมาณกระทรวงกลาโหมรัสเซียเพิ่มขึ้น 1 ใน 3 ในปีนี้ และคาดว่าจะสูงถึง 63.5 พันล้านปอนด์ก่อนปี 2016
“ประธานาธิบดีรัสเซียปูตินเป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ชาติอื่นมีความก้าวหน้าทางด้านการทหารเหนือรัสเซีย ซึ่งโครงการนี้จะต้องสัมฤทธิผลไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม” รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย พลเอก เซอร์เกย์ ชอย์กู (Sergei Shoigu )แถลงในการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ในปี 2014 พบว่ากองทัพรัสเซียครอบครองมิสไซล์ติดหัวรบนิวเคลียร์พิสัยข้ามทวีป 38 ลูก และในปีนี้คาดว่ากองทัพรัสเซียจะมีเพิ่มอีก 50 ลูกเพื่อต้องการทดแทนอาวุธนิวเคลียร์มิสไซล์สมัยสหภาพโซเวียตที่เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ
และนอกจากนี้กองทัพเรือรัสเซียมีเรือดำน้ำที่มาพร้อมกับบูลาวา( Bulava) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำที่สามารถยิงจรวดมิสไซล์ติดหัวรบนิวเคลียร์พิสัยข้ามทวีปได้ ซึ่งคาดว่าจะถูกนำเข้าประจำการได้ราว 1 ใน 3ในปีถัดไป และอีกจำนวน 5 ลำหลังจากนั้น
และในส่วนกองทัพบกรัสเซียจะได้รับจรวดขีปนาวุธอิสคานเดอร์ (Iskander )จำนวนมาก ซึ่งเป็นมิสไซล์ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์หรือหัวรบธรรมดาตามปกติได้ ซึ่งมิสไซล์อิสคานเดอร์มีความสามารถในการโจมตีระบบป้องกันขีปนาวุธของนาโตที่สหรัฐฯได้วางไว้
ซึ่งในการแสดงแสนยานุภาพล่าสุด จรวดขีปนาวุธอิสคานเดอร์ถูกทดลองใช้เป็นเวลาสั้นๆในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาในคาลินินกราด ( Kaliningrad) ซึ่งเป็นดินแดนของรัสเซียที่อยู่แยกจากแผ่นดินหลัก มีพรมแดนติดโปแลนด์ และลิธัวเนีย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกองค์การนาโต
และนอกจากนี้สื่ออังกฤษยังรายงานว่า กองทัพอากาศรัสเซียได้รับเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ขับไล่ไม่ต่ำกว่า 250 ลำในปีที่ผ่านมา และมีเป้าหมายที่จะรับมอบอีกจำนวนไม่ต่ำกว่า 200 ลำภายในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนนับตั้งแต่ยุคล่มสลายอดีสหภาพโซเวียต
นับมาจนถึงวันนี้ มีผู้นำโลก 26 ชาติตอบรับคำเชิญที่จะเข้าร่วมงานเพื่อเป็นเกียรติในวันฉลองชัยชนะในวันเสาร์(9)ที่จะถึงนี้ในกรุงมอสโก รวมไปถึงประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง แต่ทว่าผู้นำชาติตะวันตกรวมไปถึงเยอรมัน และสหรัฐฯตอบปฎิเสธ