เอเอฟพี – องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรต์วอตช์ออกมากล่าวหาวานนี้ (3 พ.ค.) ว่า ซาอุดีอาระเบีย และ ชาติพันธมิตร นำ “ระเบิดดาวกระจาย” (cluster bombs) ที่ได้จากสหรัฐฯ ไปใช้ถล่มกบฏฮูตีในเยเมน พร้อมเตือนถึงอันตรายใหญ่หลวงที่จะเกิดต่อพลเรือนเยเมนในระยะยาว
กว่า 100 ประเทศทั่วโลกได้ลงนามในอนุสัญญาต่อต้านการใช้ระเบิดชนิดนี้ ซึ่งเมื่อยิงออกไปแล้วจะแตกออกเป็นระเบิดขนาดเล็กหลายสิบลูก บางลูกที่ไม่ทำงานทันทีอาจฝังอยู่ในดินต่อไปอีกเป็นเวลานาน กลายเป็นภัยต่อชาวบ้านที่อาจเดินไปเหยียบจนถึงแก่ความตาย หรือไม่ก็พิกลพิการ
วอชิงตันออกมาแก้ต่างเรื่องนี้ โดยชี้ว่าระเบิดดาวกระจายที่สหรัฐฯ ส่งออกจะต้องถูกนำไปใช้ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด
“ผู้ที่ได้รับระเบิดชนิดนี้ไปจะต้องรับปากว่าจะนำมันไปใช้ต่อเป้าหมายทางทหารที่ชัดเจน ไม่ใช้ในเขตที่มีพลเรือน หรือพื้นที่ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีพลเรือนเข้าไปอาศัยอยู่” เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“นี่คือเงื่อนไขที่สำคัญยิ่งในนโยบายของเรา”
ฮิวแมนไรต์วอตช์ ได้รวบรวมภาพถ่าย คลิปวิดีโอ และหลักฐานอื่นๆ ที่ล้วนบ่งชี้ว่า มีการใช้ระเบิดดาวกระจายในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อฐานที่มั่นของกบฏฮูตีนิกายชีอะห์ในจังหวัดซาดา ซึ่งอยู่ในเขตเทือกเขาทางตอนเหนือของเยเมน ในช่วงหลายสัปดาห์มานี้
จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม ฮิวแมนไรต์วอตช์ พบว่า ระเบิดเหล่านี้ไปตกในที่ราบสูงแห่งหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตร ห่างจากย่านชุมชนไม่เกิน 600 เมตร
อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ระเบิดดาวกระจายปี 2008 มีภาคีร่วมลงนามแล้วทั้งสิ้น 116 ชาติ แต่สหรัฐฯ ซาอุดีอาระเบีย และประเทศพันธมิตรที่ผนึกกำลังทิ้งบอมบ์เยเมนไม่ได้เข้าร่วม
“ระเบิดดาวกระจายที่ใช้ในปฏิบัติการโจมตีของซาอุดีอาระเบียไปตกใกล้ๆ หมู่บ้าน ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อคนในท้องถิ่น” สตีฟ กูส ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุธของฮิวแมนไรต์วอตช์ ระบุ พร้อมชี้ว่า ริยาดกับชาติพันธมิตร รวมถึงสหรัฐฯ ที่เป็นผู้จัดส่งระเบิดให้ กำลังฝ่าฝืนมาตรฐานนานาชาติที่ไม่ยอมรับการใช้อาวุธซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่อประชาชนในระยะยาวเช่นนี้
ซาอุดีอาระเบียเริ่มส่งเครื่องบินเข้าไปโจมตีเยเมนเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งในช่วงแรกๆ นั้นกองทัพก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีการใช้ระเบิดดาวกระจาย
“เราไม่ได้ใช้ระเบิดดาวกระจายแน่นอน” พลจัตวา อาเหม็ด อัล-อัสซิรี แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงริยาด
ฮิวแมนไรต์วอตช์ ชี้ว่า ระเบิดที่ใช้ในเยเมนดูเหมือนจะเป็นรุ่น CBU-105 ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับเป้าหมาย ผลิตโดยบริษัท เท็กซ์ตรอน ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชัน และมีการส่งขายให้แก่กองทัพซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ระเบิดชนิดนี้แม้ถูกห้ามโดยอนุสัญญาระเบิดดาวกระจาย แต่วอชิงตันยังคงใช้งานและส่งออกไปยังประเทศพันธมิตร เนื่องจากอ้างว่ามีอัตราการ “ไม่ระเบิดและเหลือตกค้าง” (unexploded ordnance rate) ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์
ฮิวแมนไรต์วอตช์ เรียกร้องให้มีการอุดช่องโหว่ดังกล่าว และขอให้สหรัฐฯ หยุดจัดส่งอาวุธร้ายแรงชนิดนี้ทันที