รอยเตอร์ – ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเยเมนโดยกองทัพซาอุดีอาระเบียและชาติพันธมิตรจะดำเนินต่อไปไม่หยุด จนกว่าประธานาธิบดี อับดุร-รับบู มันซูร์ ฮาดี แห่งเยเมนซึ่งถูกพวกกบฏฮูตีไล่ล่าจนต้องหนีออกนอกประเทศ จะสามารถกลับไปเป็นผู้นำรัฐบาลปกครองเยเมนได้อย่างราบรื่น โฆษกกองทัพซาอุดีอาระเบียแถลงเมื่อวานนี้ (29 มี.ค.)
วันพฤหัสบดีที่แล้ว (26) ริยาดได้ประกาศจับมือกับชาติอาหรับมุสลิมสุหนี่อีก 9 ประเทศส่งเครื่องบินไปถล่มฐานที่มั่นของกบฏฮูตีนิกายชีอะห์ ซึ่งเชื่อกันว่ามีอิหร่านหนุนหลังอยู่ ขณะที่รัฐบาลเตหะรานออกมาปฏิเสธข้อหาช่วยกบฏฮูตีและประณามมาตรการก้าวร้าวของซาอุดีระเบีย
“เราจะสร้างเงื่อนไขที่จำเป็น เพื่อเปิดทางให้ประธานาธิบดีและรัฐบาลเยเมนบริหารประเทศต่อไปได้” พลจัตวา อาเหม็ด อัสเซรี โฆษกของกลุ่มพันธมิตรซาอุฯ กล่าว
“กองทัพเยเมนแตกแยกรุนแรง (หลังเกิดการลุกฮือภายในประเทศเมื่อปี 2011)... หนึ่งในเงื่อนไขของเราคือต้องให้กองทัพเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ส่วนเราก็จะช่วยโจมตีเพื่อกดดันกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์จะเอื้ออำนวยให้กองทัพเยเมนควบคุมอำนาจได้”
อัสเซรี ซึ่งให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกลุ่มเล็กๆ ภายหลังแถลงข่าวที่กรุงริยาด ระบุว่า การโจมตีทางอากาศสามารถสกัดกั้นไม่ให้กบฏฮูตีรุกคืบไปถึงเมืองท่าเอเดน และยังเป็นกดดันต่อพวกกบฏที่กระจายตัวอยู่ทั่วเยเมน
“เรารู้สึกได้ว่าพวกเขาสูญเสียมากขึ้นทุกวัน... เราจะกดดันต่อไปเพื่อหยุดยั้งพวกเขาให้ได้ เชื่อว่าสถานการณ์รอบๆ เมืองเอเดนจะดีขึ้นเป็นลำดับ”
เมื่อวานนี้ (29) กลุ่มติดอาวุธที่ภักดีต่อประธานาธิบดี ฮาดี ได้ปะทะกับกบฏฮูตีบริเวณชานเมืองเอเดน ซึ่งถือเป็นที่มั่นสุดท้ายของผู้นำเยเมน ก่อนจะต้องหลบหนีออกนอกประเทศ
อัสเซรี เผยด้วยว่า ซาอุฯและพันธมิตรได้ส่งเครื่องบินไปถล่มฐานทัพอากาศ อัล-รูบายี ในเมืองตาอิซ (Taiz) เมื่อวันเสาร์ (28) เพื่อทำลายเครื่องบินของกองทัพอากาศเยเมนที่ถูกพวกกบฏเคลื่อนย้ายไปจากกรุงซานา
โฆษกกองทัพซาอุฯ ชี้ด้วยว่า อิหร่านช่วยให้กบฏฮูตีได้ครอบครองเครื่องบินรบ 2-3 ลำของกองทัพอากาศเยเมน ซึ่งอากาศยานเหล่านี้ได้ถูกส่งออกไปโจมตีสำนักงานของ ฮาดี ที่เมืองเอเดนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เวลานี้มีเครื่องบินเหลืออยู่ในมือกบฏน้อยมากและจะตกเป็นเป้าหมายการทำลายต่อไป
อัสเซรี ประเมินคร่าวๆ ว่ากบฏฮูตีมีนักรบอยู่ประมาณ 25,000-30,000 คน แต่ละคนได้รับค่าจ้างถึงวันละ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3,200 บาท) โดยมีอิหร่านเป็นสปอนเซอร์ใหญ่
เขาชี้ว่า หากเงินทุนเหล่านี้หมดไป กำลังพลของกบฏฮูตีก็จะลดลงมาก
เขายังอ้างว่า กบฏฮูตีได้รับปืนต่อต้านอากาศยาน กระสุนปืน และอาวุธอื่นๆ ซึ่งถูกลำเลียงมากับเที่ยวบินจากกรุงเตหะราน 14 เที่ยวต่อสัปดาห์ในช่วงเวลา 1 เดือนมานี้ แต่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของซาอุดีอาระเบียก็สกัดความช่วยเหลือของอิหร่านไว้ได้ ซึ่งข้อมูลนี้สอดคล้องกับสิ่งที่รัฐมนตรีต่างประเทศเยเมนได้ให้สัมภาษณ์ไว้
ทั้งอิหร่านและกบฏฮูตีต่างยืนยันเสียงแข็งว่าเตหะรานไม่เคยให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะในด้านอาวุธ เงินทอง หรือการฝึกฝนก็ตาม