รอยเตอร์ - เกาหลีเหนือออกมาประณามญี่ปุ่น ซึ่งเตรียมจัดการประชุมซัมมิตที่นครนิวยอร์ก ว่าด้วยพลเมืองที่ถูกโสมแดงลักพาตัวไปเมื่อหลายสิบปีก่อน โดยชี้ว่าเรื่องนี้ “เคลียร์” กันจบนานแล้ว และโตเกียวจงใจกระพือเรื่องสิทธิมนุษยชนเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของเกาหลีเหนือ
คณะผู้แทนเกาหลีเหนือประจำองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า การประชุมซัมมิตที่ญี่ปุ่นจะจัดขึ้นในวันอังคาร (5 พ.ค.) เป็นเพียงแผนรณรงค์ “หลอกลวงคนทั่วโลก โดยดึงความสนใจไปที่ประเด็นการลักพาตัว และสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ”
คณะกรรมาธิการสอบสวนของยูเอ็นรายงานเมื่อปีที่แล้วว่า เกาหลีเหนือได้ “ลักพาตัวพลเมืองต่างชาติอย่างเป็นระบบตั้งแต่ปี 1950 และกระทำต่อเหยื่อจำนวนมาก จนถือได้ว่าเป็นนโยบายรัฐ” และยังชี้แจงรายละเอียดการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เทียบได้กับความโหดร้ายป่าเถื่อนของพวกนาซี
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เพิ่มปัญหาสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือเข้าไปในวาระการประชุมเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้คณะผู้แทนเปียงยางต้องพยายามแก้ต่างอย่างแข็งขัน ทั้งในการประชุมที่นครนิวยอร์กและเจนีวา
ในเดือนธันวาคมปีที่แล้วเช่นกันที่สมัชชาใหญ่สหประชาชาติได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ พิจารณายื่นฟ้องเกาหลีเหนือต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ทว่าก็ไม่สำเร็จ เพราะจีนซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของโสมแดงใช้สิทธิ์ “วีโต”
“พวกพลังอันก้าวร้าว เช่น ญี่ปุ่น ยิ่งพยายามป้ายสีทำลายเกียรติของเรา และบั่นทอนระบอบการปกครองของเราโดยอ้างปัญหาสิทธิมนุษยชนมากเท่าใด ระบอบสังคมนิยมในเกาหลีเหนือก็จะยิ่งเข้มแข็งขึ้นเท่านั้น” คณะผู้แทนเกาหลีเหนือในยูเอ็น ระบุในคำแถลงวานนี้ (1 พ.ค.)
โสมแดงออกมายอมรับเมื่อปี 2002 ว่า ได้ลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นไป 13 คนเมื่อหลายสิบปีก่อนหน้านั้น ซึ่งมีเพียง 5 คนที่ได้กลับไปหาครอบครัวในญี่ปุ่น ส่วนอีก 8 คนเปียงยางอ้างว่าเสียชีวิตแล้ว ทว่ากรุงโตเกียวเรียกร้องขอข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่านี้
“เรื่องนี้เคลียร์กันจบนานแล้ว” คณะผู้แทนเกาหลีเหนือ ระบุ
ญี่ปุ่นสั่งขยายมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือต่อไปอีก 2 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อตอบโต้ความล่าช้าของเปียงยางในการสอบสวนเรื่องพลเมืองที่ยังสูญหาย