เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ชาเยีย อัล-คาห์ตานี (Shayea al-Qahtani) นายจ้างชาวซาอุดีอาระเบีย ถูกประหารเป็นรายที่ 63 ของประเทศภายในปีนี้ หลังจากถูกตัดสินลงโทษขั้นประหารชีวิตในความผิดคุกคามทางเพศและฆาตกรรมหญิงรับใช้ชาวอินโดนีเซียอย่างโหดเหี้ยมที่ลงมือใช้ไม้เท้าทุบตี และราดน้ำร้อนที่หลังของเหยื่อจนเสียชีวิต
การประหาร ชาเยีย อัล-คาห์ตานี (Shayea al-Qahtani) นายจ้างชาวซาอุดีอาระเบียในวันนี้ (21 เม.ย.) ที่จังหวัด Abha ทางตะวันตกของประเทศ ที่ถือเป็นการประหารชีวิตรายที่ 63 ของปีนี้ โดยชาเยีย อัล-คาห์ตานีถูกตัดสินในความผิดคุกคามทางเพศและฆาตกรรมหญิงรับใช้ชาวอินโดนีเซียอย่างทารุณ ที่มีรายงานว่าได้ใช้น้ำร้อนราดที่หลังของเหยื่อ และยังใช้ไม้เท้าทุบตีอย่างหนักจนเสียชีวิต กระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบียแถลง และเสริมว่าการประหารชีวิตมีขึ้นเพื่อกำราบไม่ให้คนกระทำความผิด
ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียที่ใช้กฎหมายชารีอะห์ในการปกครองประเทศ และทำให้ความผิดลักลอบค้ายาเสพติด ข่มขืน ฆาตกรรม ปล้นโดยใช้อาวุธ และการเปลี่ยนศาสนาล้วนต้องถูกลงโทษขั้นประหารชีวิตทั้งสิ้น
คนงานหญิงรับใช้ชาวอินโดนีเซียในบ้านเศรษฐีชาวซาอุดีอาระเบียมักตกเป็นเหยื่อความรุนแรงจากนายจ้าง และเสี่ยงต่อการถูกลงโทษประหารชีวิตหากต่อสู้ทำร้ายนายจ้างจนถึงขั้นทำให้เสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้ในวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ซาอุดีอาระเบียได้ทำการประหาร คาร์นี บีที เมดี ทาร์ซิม (Karni Bt. Medi Tarsim) วัย 37 ปี หญิงรับใช้ชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นรายที่ 2 โดยไม่แจ้งเตือนให้สถานทูตอินโดนีเซียรับทราบล่วงหน้า
ในเดือนมีนาคม 2013 ทาร์ซิมถูกลงโทษประหารชีวิตในความผิดสังหารบุตรวัย 4 ปีของนายจ้าง และเธอถือเป็นหญิงรับใช้ชาวอินโดนีเซียรายที่ 2 ที่ถูกลงโทษประหารชีวิตในสัปดาห์นั้นต่อจาก Siti Zaenab Bt. Duhri Rupa ที่ไม่มีการส่งคำเตือนไปยังอินโดนีเซียเช่นกัน