รอยเตอร์ - เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียแสดงความเห็นต่อสาธารณะในวันจันทร์ (6 เม.ย.) เชื่อมั่นว่าข้อตกลงเบื้องต้นระหว่าง 6 ชาติมหาอำนาจกับอิหร่าน ต่อโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน จะไม่นำไปสู่การแข่งขันทางอาวุธ ท่ามกลางความกังวลของอิสราเอลว่ามันจะเป็นภัยคุกคามความอยู่รอดของพวกเขา
ข้อตกลงที่บรรลุกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (2 เม.ย.) ระหว่างอิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจที่ประกอบด้วย สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี จีน และรัสเซีย จะจำกัดการวิจัยนิวเคลียร์ของเตหะรานอย่างน้อยๆ ก็ 1 ทศวรรษ แลกกับที่เหล่าชาติตะวันตกจะค่อยๆยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แสดงความกังวลว่าข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ที่อยู่บนพื้นฐานของเงื่อนไขต่างๆ ในข้อตกลงเบื้องต้น ซึ่งเห็นพ้องกันระหว่างหารือที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ จะคุกคามความอยู่รอดของประเทศของเขา และเพิ่มเสี่ยงต่อการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง
กระนั้นก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียยืนยันว่า “ไม่มีเหตุผลที่จะเกิดขึ้นการแข่งขันทางอาวุธ อิหร่านจะกลายเป็นประเทศที่อยู่ภายใต้การตรวจตราและตรวจสอบอย่างละเอียดที่สุดหากข้อตกลงในหลักการที่เมืองโลซานน์ แปรเปลี่ยนเป็นภาษาของข้อตกลงในทางปฏิบัติ” เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแดนหมีขาว
ลาฟรอฟได้กล่าวโทษสหรัฐฯ และยุโรปว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรื่องนี้ยืดเยื้อมานาน จนกระทั่งได้กรอบข้อตกลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และบอกว่ารัสเซียเองก็จะได้ประโยชน์จากกรณีที่ตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน เพราะว่ามันจะเปิดทางให้เตหะรานสามารถชำระเงินตามข้อตกลงซื้อขายต่างๆกับหน่วยงานนิวเคลียร์ของอิหร่านเต็มจำนวน
