เอเอฟพี – เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา แสดงความยินดีต่อว่าที่ประธานาธิบดีไนจีเรียคนล่าสุด มูฮัมมาดู บูฮารี ที่สามารถมีชัยเหนืออดีตประธานาธิบดีไนจีเรีย กู๊ดลัก โจนาธาน ในการเลือกตั้งทั่วไปในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียงชนะขาดถล่มทะลายกว่า 15 ล้านเสียง โดยโอบามากล่าวชื่นชมถึงบทบาทของคนทั้งคู่ที่สำคัญในช่วงส่งผ่านอำนาจทางประชาธิปไตยเป็นครั้งแรกของประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (1) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ต่อสายแสดงความยินดีต่อผู้นำคนใหม่ไนจีเรีย มูฮัมมาดู บูฮารี ที่ได้รับเสียงสนับสนุนท่วมท้นจากประชาชนไนจีเรียท่ามกลางวิกฤตความมั่นคงของประเทศที่ถูกกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารัมออกอาละวาด ทั้งนี้บูฮารีในวัย 72 ปีเคยเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศในช่วงปี 1983-1985 หลังจากที่เขาทำการยึดอำนาจสำเร็จ และนอกจากนี้ในวันเดียวกันโอบามายังต่อสายถึงอดีตประธานาธิบดีไนจีเรีย กู๊ดลัก โจนาธาน เพื่อให้กำลังใจ โดยกล่าวว่าความเป็นผู้นำของคนทั้งคู่โดดเด่นในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำเนียบขาวกล่าวผ่านแถลงการณ์
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กล่าวเยินยอต่อคนทั้งสองถึงชัยชนะอย่างท่วมท้นของบูฮารี และการยอมรับความพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วของโจนาธานว่า ช่วยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับไนจีเรียที่มักต้องผจญกับมรสุมความไม่แน่นนอนทางการเมือง โดยพบว่า ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีการทำรัฐประหารในไนจีเรียถึง 6 ครั้งนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1960 และยังตกอยู่ภายใต้การปกครองโดยพรรค PDP ของโจนาธานมายาวนานติดต่อกัน
ซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า “นี่เป็นย่างก้าวสำคัญของไนจีเรียและแอฟริกา ซึ่งประธานาธิบดีโจนาธานถือเป็นรัฐบุรุษที่แท้จริงที่ส่งผ่านอำนาจทางประชาธิปไตยเป็นครั้งแรกของไนจีเรียสำเร็จ”
ไนจีเรียเป็นชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมาย และถือเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่กลับต้องประสบปัญหาความยากจน ปัญหาการบริหารประเทศ และถูกกลุ่มโบโกฮารัมก่อการร้าย เข้ายึดเมืองต่างของประเทศ สังหารพลเมือง ลักพาตัว รวมไปถึงเผาตึกรามบ้านช่องต่างๆ ซึ่งในการออกแถลงการณ์ครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีไนจีเรีย บูฮารีประกาศจุดยืนที่จะใช้ทุกวิถีทางปราบปราบกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารัมให้จงได้ ซึ่งนโยบายการปราบกลุ่มติดอาวุธนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ประชาชนชาวไนจีเรียต้องการได้ยินจากผู้นำคนใหม่ของพวกเขา