เอเจนซีส์/เอเอฟพี – ผลการเลือกตั้งเมื่อวานนี้(31 มีนาคม)ที่คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งแห่งชาติไนจีเรียประกาศให้ อดีตผู้นำเผด็จการทหาร พลเอก มูฮัมมาดู บูฮารี (Muhammadu Buhari) ที่เคยเป็นผู้นำในช่วงการทำการรัฐประหารในปี 1983 ชนะแบบถล่มทะลายเหนืออดีตประธานาธิบดี กู๊ดลัก โจนาธาน ไปกว่า 2.57 ล้านเสียง ในประเทศที่มีภัยก่อการร้ายคุกคามอย่างหนัก ทำให้สื่ออังกฤษ แชเนล 4 สื่ออังกฤษตั้งคำถามว่า ก่อการร้ายโบโกฮารัมเป็นปัจจัยหลักในชัยชนะครั้งนี้ของบูฮารีหรือไม่
แชเนล4 สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(31 มีนาคม)ว่า พลเอกมูฮัมมาดู บูฮารี (Muhammadu Buhari) วัย 72 ปี ที่เคยปกครองไนจีเรียในช่วงปี 1983 -1985 หลังจากก่อการรัฐประหารสำเร็จ ชนะการเลือกตั้งทั่วที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางการก่อการร้ายอย่างหนักของกลุ่มโบโกฮารัมที่สร้างชื่อจากการลักพาตัวกลุ่มนักเรียนหญิงชิบอกเกือบ 300 คนไปจากโรงเรียนในคราวเดียวกัน ซึ่งเอเอฟพีรายงานวันนี้(1)ว่า บูฮารีจากพรรค APC กวาดคะแนนเสียงไปทั้งหมด15,424,921 เสียง หรือ 53.95 % จากทั้งหมด 28,587,564 เสียงของผู้มาเลือกตั้งในไนจีเรีย ในขณะที่อดีตประธานาธิบดีไนจีเรีย กู๊ดลัก โจนาธาน วัย 57 ปีกวาดคะแนนไปเพียง 12,853,162 เสียง หรือ 44.96 % เท่านั้น โดยมีรายงานว่า โจนาธานโทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับบูฮารีในวันอังคาร(31 มีนาคม)ในชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
ซึ่งแชเนล 4 วิเคราะห์ความสำเร็จของบูฮารีว่า เกิดมาจากเสียงสนับสนุนที่ท่วมท้นในเขตทางรัฐตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งในแถบนี้เป็นเขตปฎิบัติการหลักของโบโกฮารัมในการก่อการร้าย ที่ออกโจมตีทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระเบิดฆ่าตัวตาย การลักพาตัว ไปจนถึงบุกเข้าโจมตีหมู่บ้านต่างๆ ฆ่าล้างชาวบ้านที่ไร้ทางสู้ รวมไปถึงเผาบ้านเรือนของคนเหล่านั้น
และไม่น่าแปลกใจที่พบว่า ความมั่นคงของประเทศถือเป็นนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งในช่วงวันที่ 28-29 มีนาคมที่ผ่านมานี้ จาก NOI Polls พบว่า นโยบายความมั่นคงถือเป็นนโยบายสูงสุดที่ชาวไนจีเรียต้องการได้ยินจากแถลงการณ์ของประธานาธิบดีคนใหม่ในปี 2015
ทั้งนี้เมื่อเทียบกับโจนาธานแล้ว บูฮารีถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีความเข้มแข็งพอที่จะปราบกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารัมได้ ซึ่งก่อนหน้านี้อดีตเผด็จการทหารคนนี้เคยลั่นวาจาว่าจะกำราบโบโกฮารัมให้ได้ และจุดแข็งของนโยบายการหาเสียงของบูฮารีคือ “ความมั่นคงไนจีเรีย” ซึ่งเดือนกุมภาพันธ์ล่าสุดในการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของแชเนล 4 โจนาธาน มิลเลอร์ (Jonathan Miller)เกี่ยวกับก่อการร้ายโบโกฮารัม แต่บูฮารีกลับสวนด้วยคำถามว่า “ใครคือโบโกฮารัม”
ในขณะที่อดีตประธานาธิบดีไนจีเรีย กู๊ดลัก โจนาธาน กลับถูกมองว่าไม่สามารถจัดการกับกลุ่มก่อการ้ายนี้ได้ และได้รับการวิจารณ์อย่างหนักที่ปล่อยให้กลุ่มติดอาวุธนี้สามารถออกอาละวาดและเข้ายึดครองบางส่วนของไนจีเรียได้สำเร็จ สังหารผู้คนไปไม่ต่ำกว่า 8,000 คน และลักพาตัวผู้คนไปจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มนักเรียนหญิงชิบอก รัฐบอร์โน ซึ่งสื่ออังกฤษระบุว่า ความนิยมในตัวโจนาธานนั้นขึ้นลงสอดคล้องกับการก่อเหตุของกลุ่มโบโกฮารัม ที่ความนิยยมถูกวัดด้วยตคำถามถึงความสามารถของการบริหารของโจนาธานมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2014 โดยพบว่าในเดือนนี้ ความนิยมในตัวโจนาธานตกไปทันที 11 จุดหลังจากชาวบ้านในแถบรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือร่วม 400 คนถูกโบโกฮารัมสังหาร และในเดือนพฤษภาคม 2014 ซึ่งเป็นเดือนที่ความนิยมในตัวผู้นำคนนี้ตกฮวบถึง 18 จุด หลังจากทหารและพลเรือนไนจีเรียร่วม 900 คนต้องถูกกลุ่มติดอาวุธโบโกฮารัมฆ่าตาย
แชเนล 4 รายงานว่า นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2014 เป็นต้นมา โจนาธานได้รับความไว้วางใจน้อยมากจากประชาชนไนจีเรียของเขา และยังถูกมองว่ามีความผิดพลาดในการจัดการส่งพลังงานป้อนครอบครัวชาวไนจีเรีย รวมไปถึงการสร้างงานในประเทศ
และสื่ออังกฤษยังพบว่าเขตรัฐทางเหนือและรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือที่ถูกโจมตีหนักที่สุดจากโบโกฮารัม ได้กลายเป็นฐานเสียงสำคัญให้กับบูฮารีในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ชาวไนจีเรียในแถบนี้แสดงพลังให้อดีตประธานาธิบดีไนจีเรีย โจนาธานเห็นว่า ไนจีเรียต้องการมีผู้นำคนใหม่เพื่อจัดการปัญหาก่อการร้าย
รัฐบอร์โนถือเป็นรัฐที่กลุ่มโบโกฮารัมออกอาละวาดหนักสุดนับตั้งแต่นักเรียนหญิงชิบอกราว 276 คนถูกลักพาตัวในเดือนเมษายน 2014 เป็นต้นมา และมีผู้คนจากเมืองบากา ในรัฐแห่งนี้ ถูกสังหารร่วม 2,000 คนในเดือนมกราคม 2015 ซึ่งในการเลือกตั้งล่าสุด ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจากรัฐบอร์โนไม่ต่ำกว่า 233,000 คนลงคะแนนให้กับบูฮารี เมื่อเทียบกับ 14,000 เสียงที่โจนาธานได้รับจากรัฐแห่งนี้
และที่รัฐคาโน ซึ่งตกเป็นเป้าก่อการ้ายของโบโกฮารัมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีแกรนด์มัสยิดในรัฐคาโน เพื่อต้องการลอบสังหารบูฮารี และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 82 คน โดยพบว่าผู้สิทธิ์เลือกตั้งต่างลงคะแนนอย่างท่วมท้นให้กับบูฮารีด้วยตัวเลข 1.9 ล้านเสียง เทียบกับ 216,000 เสียงที่มอบให้กับโจนาธาน
สื่ออังกฤษยังชี้ว่า 9 รัฐจากทั้งหมด 37 รัฐในไนจีเรียที่ถูกโบโกฮารัมโจมตี และนำความสูญเสียไม่ต่ำกว่า 100 ชีวิตนับตั้งแต่ต้นปี 2014 โดยผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนในทั้ง 9 รัฐนี้รวมกันยังไม่ถึง 1 ใน 4 ของผู้มาลงคะแนนที่คูหาการเลือกตั้งทั้งหมด แต่แชเนล 4 ชี้ว่า แต่กลับกลายเป็นว่ากลุ่มนี้คิดเป็น 1 ใน 3 ของคะแนนที่บูฮารีได้รับเพื่อเข้าสู่อำนาจการบริหารสูงสุดของไนจีเรีย
บูฮารี ผู้นำคนใหม่ของไนจีเรีย ประกาศแผนยุทธวิธีกำราบกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารัมว่า เขาจะยังคงยึดถือความร่วมมือทางการทหารกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านต่อไป ซึ่งดูเหมือนว่าโบกฮารัม ที่เมื่อไม่นานมานี้ได้ประกาศจงรักภักดีต่อกลุ่มก่อการร้าย IS ที่ออกปฎิบัติการในอิรัก ซีเรีย และกำลังคืบคลานเข้าสู่อัฟกานิสถาน กลุ่มติดอาวุธจากกาฬทวีปแห่งนี้ยังคงอาละวาดหนักถึงแม้จะถูกโจมตีอย่างหนักจากการสนธิกำลังทางทหารของประเทศรอบทะเลสาบชาด
ซึ่งต้องยอมรับว่าโบโกฮารัมเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โจนาธานต้องตกจากเก้าอี้ผู้นำสูงสุดของประเทศ แต่กลายเป็นตั๋วเบิกทางเข้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดีของบูฮารี ผู้ที่สื่ออังกฤษชี้ว่า ต้องรอดูต่อไปว่า ผู้นำคนใหม่จะสามารถกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายนี้ได้หรือไม่