รอยเตอร์/เอพี – คณะลูกขุนรัฐแอละแบมาแนะให้ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตหญิงอเมริกันวัยกลางคนซึ่งลงโทษหลานสาววัย 9 ขวบให้วิ่งจนกระทั่งเด็กชักและเสียชีวิต เพียงเพราะโกรธที่หลานแอบทานช็อกโกแลต
จอยซ์ การาร์ด วัย 50 ปี ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานฆ่าคนตายด้วยเหตุฉกรรจ์ (capital murder) เนื่องจากการเสียชีวิตของ ซาวันนาห์ ฮาร์ดิน วัย 9 ขวบ เมื่อปี 2012 โดยศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้
คณะลูกขุนปฏิเสธคำร้องของอัยการที่ต้องการให้ประหารชีวิตจำเลย โดยลูกขุน 7 คนเห็นควรให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนอีก 5 คนเห็นว่าควรประหาร โดยคำตัดสินของคณะลูกขุนมีขึ้นเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) และตรงกับวันเกิดปีที่ 50 ของ การาร์ด พอดี
จิมมี ฮาร์ป อัยการแขวงแห่งเทศมณฑลอีโทวาห์ ระบุว่า ตนพอใจในความเห็นของคณะลูกขุนส่วนใหญ่ และจะขอให้ผู้พิพากษาเห็นชอบกับโทษจำคุกตลอดชีวิตด้วย
“เราได้คืนความยุติธรรมแก่ ซาวันนาห์ ฮาร์ดิน แล้วในวันนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารอคอยมาตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. ปี 2012” ฮาร์ป ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยอ้างถึงวันที่เกิดเหตุสลดนี้ขึ้น
หลังจากวิ่งเก็บไม้ในสวนนานเกือบ 3 ชั่วโมง ซาวันนาห์ ก็เกิดอาการชักและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในอีก 3 วันต่อมา เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำและขาดโซเดียม
เวลานั้นกล้องวีดีโอบนรถโรงเรียนสามารถบันทึกบทสนทนาระหว่าง การาร์ด กับคนขับรถ โดยเธอพูดว่า ซาวันนาห์ มีอาการผิดปกติในกระเพาะปัสสาวะ จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ทานของหวานหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
“มันต้องวิ่งไปเรื่อยๆ จนกว่าฉันจะบอกให้มันหยุด” เพื่อเป็นการลงโทษ การาร์ด กล่าว
เจสสิกา แม ฮาร์ดิน ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของเด็กหญิงถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมด้วย เนื่องจากอยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่พยายามห้ามปราม
การาร์ด ให้การต่อศาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เธอไม่มีเจตนาทำร้ายหลานสาว และไม่ได้บังคับให้ ซาวันนาห์ วิ่งด้วย แต่หลานสาวต้องการให้เธอช่วยฝึกวิ่งเพื่อเตรียมลงแข่งขันที่โรงเรียน
แดนี โบนส์ ทนายฝ่ายจำเลย โต้แย้งว่า ซาวันนาห์คงไม่ต้องการเห็นย่าของเธอถูกประหารชีวิต
“จอยซ์ รัก ซาวันนาห์ เรื่องนี้พิสูจน์ได้ ส่วนความรักที่ ซาวันนาห์ มีต่อ จอยซ์ ก็พิสูจน์ได้เช่นกัน”