รอยเตอร์ - สหรัฐฯ บอกในวันพฤหัสบดี (26 มี.ค.) มีปัญหากับรายงานข่าวที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขู่ลงโทษผู้สื่อข่าวที่ไม่นำเสนอความจริง และหวังว่านายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐประหารของไทยรายนี้จะไม่จริงจังอย่างที่พูด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งยึดอำนาจจากการรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว บอกกับบรรดาสื่อมวลชนเมื่อวันพุธ (25 มี.ค.) ว่าจะลงโทษประหารผู้สื่อข่าวที่ไม่รายงานความจริง แม้บางทีคำพูดนี้อาจมีเจตนาหยอกเย้า แต่พวกนักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่าผู้นำรายนี้พูดด้วยท่าทางขึงขังปราศจากรอยยิ้ม หลังจากเมื่อเดือนที่แล้วนายกรัฐมตรีของไทยก็เคยบอกว่าเขามีอำนาจที่สามารถปิดสื่อมวลชน
“แน่นอน เรามีปัญหากับรายงานข่าวที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าเขาจะลงโทษสื่อมวลชนที่ไม่รายงานความจริง” ตัวแทนกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับรอยเตอร์ “เราหวังอย่างจริงใจว่ามันจะไม่ใช่คำขู่ที่จริงจัง คำพูดแบบนี้ แม้จะไม่จริงจัง แต่มันก็กระตุ้นบรรยากาศในดินแดนที่เสรีภาพถูกยับยั้ง”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นการแสดงออกถึงความกังวลล่าสุดของสหรัฐฯ ต่อสถานการณ์ทางการเมืองในไทย พันธมิตรที่ยาวนานของอเมริกา
วอชิงตันแสดงความตื่นตระหนกเมื่อครั้งเกิดรัฐประหาร โดยได้ระงับเงินช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง 4.7 ล้านดอลลาร์และยกเลิกความผูกพันระดับสูงบางอย่าง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็กระวนกระวายหลีกเลี่ยงทำลายความสัมพันธ์ระยะยาวกับไทย ประเทศที่สหรัฐฯ มองในฐานะพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รอยเตอร์ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ลงมือปราบปรามฝ่ายต่อต้านหลังจากยึดอำนาจและบอกว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมยกเลิกกฎอัยการศึก ซึ่งมอบอำนาจในการจับกุมและควบคุมตัวอย่างกว้างขวางแก่กองทัพ
ในรายงานของรอยเตอร์อ้างคำพูดของนักเคลื่อนไหวบอกด้วยว่าตำรวจนอกเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่ทหารได้ไปเยี่ยมบ้านผู้ประท้วงนักศึกษาอย่างน้อย 20 คนทั่วประเทศในสัปดาห์นี้ ถือเป็นมาตรการตอบโต้ผู้ขัดขืนครั้งหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงหลังก่อรัฐประหารใหม่ๆ