รอยเตอร์/ซีแอตเติลไทม์ส – อัยการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอุกฉกรรจ์กับชายชาวเกาหลีใต้ซึ่งก่อคดีฆาตกรรมน้องชายตัวเองจนถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน แต่แอบเดินทางกลับเข้าแผ่นดินอเมริกาอีก โดยใช้เอกสารปลอมว่าตนคือน้องที่เสียชีวิตไปแล้ว
คำร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางในสัปดาห์นี้ ระบุว่า จุน คยู โกห์ ก่อคดีสังหารน้องชายวัย 16 ปีชื่อ ซัง โกห์ ที่เมืองแบลล์วิวใกล้ๆ นครซีแอตเติลเมื่อปี 1984 และรับโทษจำคุกอยู่นาน 8 ปีก่อนจะถูกเนรเทศไปยังเกาหลีใต้ในปี 1992 แต่ในปีถัดมา จุน ได้ปลอมเอกสารอ้างตัวเป็นน้องชายเพื่อกลับเข้ามาอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ และยังซื้อปืนพกไว้หลายกระบอก
เขาถูกอัยการตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองหลังมีคำสั่งเนรเทศ และครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย
เอมิลี แลงลี โฆษกสำนักงานอัยการสหรัฐฯ แถลงว่า โกห์ วัย 54 ปี ถูกควบคุมตัวไว้ที่ทัณฑสถานกลางในนครซีแอตเติล โดยศาลนัดไต่สวนเบื้องต้นในวันที่ 7 เมษายนนี้
โกห์ ในคราบน้องชายข้ามแดนจากฝั่งแคนาดามายังเมืองลีนเดนในรัฐวอชิงตัน จากนั้นก็ใช้นามแฝงหลายชื่อตลอดเวลาสิบกว่าปี จนกระทั่งปี 2014 เขาเดินทางจากรัฐฟลอริดาไปที่บ้านของครอบครัวในเมืองแบลล์วิว แต่พบว่าพ่อแม่ย้ายออกไปแล้ว
ตำรวจสหรัฐฯ เริ่มระแคะระคายตัวตนที่แท้จริงของ โกห์ หลังจากที่เขาไปติดต่อขอให้ช่วยสืบหาพ่อแม่ที่หายตัวไป
เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว โกห์ โทรแจ้งตำรวจเขตแบลล์วิวว่าครอบครัวของเขา “ถูกลักพาตัว” รถยนต์ของพี่ชายก็หายไป และไม่สามารถเข้าถึงบัญชีเงินฝากออนไลน์ของพ่อแม่ได้ เขาอ้างว่าอาจมีใครสักคนพยายามยึดบ้าน และโกงเงินสวัสดิการสังคมของครอบครัวเขา
ตำรวจซึ่งเข้าไปค้นหาหลักฐานในบ้านของเขาเจอปืนพกหลายกระบอก จึงเริ่มสงสัยว่า โกห์ อาจมีอาการทางจิต และบุคคลรอบตัวเขาก็เสี่ยงอันตรายอย่างมาก โกห์ ยอมส่งมอบปืนทั้งหมดให้ตำรวจแต่โดยดี
หลังจากนั้น โกห์ ได้ส่งอีเมล์ถึงตำรวจสายสืบในเมืองแบลล์วิว แจ้งว่าได้รับโทรศัพท์จากสมาชิกในครอบครัวซึ่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่พวกเขาไม่ยอมบอก โกห์ ว่าอยู่เมืองไหนแน่
ระหว่างที่ตำรวจสืบเรื่องคนหายก็ได้พบข้อมูลคดีฆาตกรรมเมื่อปี 1985 และเชื่อว่า จุน คยู โกห์ น่าจะปลอมเป็นน้องชายตัวเองเพื่อกลับเข้ามาอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ
ตำรวจตรวจลายนิ้วมือของ โกห์ จนทราบว่าเขาเป็นใคร และพบว่าชายคนนี้มีนามแฝงมากมาย รวมถึงใช้เอกสารระบุตัวตนปลอมด้วย
โกห์ ถูกจับกุมที่นครลอสแองเจลิสเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งตำรวจเชื่อว่าเขาคงเดินทางไปตามหาญาติ ทางการแคลิฟอร์เนียยังพบบัตรประจำตัวผู้พำนักต่างด้าว, บัตรประจำตัวประชาชนของรัฐวอชิงตัน 2 ใบ, บัตรประกันสังคม และหนังสือเดินทางที่ระบุชื่อ จุน ซัง โกะห์
“ผมไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในสหรัฐฯ... เพราะฉะนั้นเลยต้องใช้นามแฝงหลายชื่อ รวมถึงชื่อ แซม ด้วย” เขาเขียนในอีเมล์ที่ส่งถึงตำรวจสายสืบ โดยลงชื่อท้ายอีเมล์ว่า “แซม”