xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : “มือมีดโชเฟอร์แท็กซีมะกัน” แบกกระเป๋าระเบิดเพลิงเข้า “สนามบินนิวออร์ลีนส์” ถูกยิงดับ หลังไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ TSA

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอพี/เอเจนซีส์ – ริชาร์ด ไวท์ (Richard White) อดีตโชเฟอร์แท็กซี่อเมริกันวัย 63 ปี เสียชีวิตเมื่อบ่ายวานนี้ (21 มี.ค.) หลังจากก่อนหน้านี้ในคืนวันศุกร์ (20) พยายามบุกเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางคมนาคมสหรัฐฯ TSA ประจำท่าอากาศยานนานาชาตินิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ด้วยมีดยาวเล่มใหญ่ที่จุดตรวจความปลอดภัย และสเปรย์เจ้าหน้าที่คนอื่นในขณะที่ชายผู้นี้แบกกระเป๋าที่บรรจุระเบิดโมโลตอฟ พร้อมทั้งขวดแก้วเก็บแยม 6 ใบ และเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยแก๊สโซลีน

ริชาร์ด ไวท์ (Richard White) อดีตโชเฟอร์แท็กซี่อเมริกันวัย 63 ปี ถูกยิงในคืนดึกวันศุกร์ (20) หลังจากเขาถือมีดยาวไล่ล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางคมนาคมสหรัฐฯ TSA ที่ปราศจากอาวุธ ซึ่งประจำบริเวณจุดตรวจความปลอดภัยในขณะที่มีผู้โดยสารเครื่องบินยืนรอคิวเพื่อผ่านเช็คอินขึ้นเครื่องอย่างเนื่องแน่นที่ท่าอากาศยานนานาชาตินิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา จึงทำให้ผู้ช่วยนายอำเภอประจำพื้นที่ตัดสินใจใช้ปืนยิงไวท์ และยิงไป 3 ครั้ง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากนั้น และเสียชีวิตจากการทนพิษบาดแผลไม่ไหวในเวลา 16.02 น.ของวันเสาร์ (21)

ด้านนายอำเภอท้องที่เกิดเหตุเนเวล นอร์แมนด์ (Newell Normand) แถลงว่า ในการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตรวจค้นสัมภาระของไวท์ และพบว่าในขณะเกิดเหตุไวท์ถือกระเป๋าที่บรรจุไปด้วยระเบิดเพลิงจำนวนมาก พร้อมทั้งขวดแก้วเก็บแยม 6 ใบ และเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยแก๊สโซลีน โดยนอร์แมนด์ระบุว่า “โชคดีที่ชายผู้นี้ไม่ได้ทำให้ใครได้รับบาดเจ็บสาหัส”

นายอำเภอนอร์แมนด์ยังเปิดเผยว่า ไววท์มีประวัติการเข้าบำบัดทางจิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สอบสวนพยายามจะค้นหาว่าการที่ไวท์มีประวัติการรักษานี้เป็นอะไรกันแน่ และอาการจนถึงการรักษาของเขาอยู่ในขั้นใดแล้ว ซึ่งมีการพบว่าไวท์ปฎิเสธการรักษาประเภทหนึ่ง สอดคล้องกับบีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ในการแถลงข่าววันเสาร์ (21) ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนสรุปว่า ไวท์นั้นมีอาการทางจิต และพบว่าทางครอบครัวของมือมีดนั้นให้ความร่วมมืออย่างดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ

นอกจากนี้ยังมีการค้นพบ ระเบิดควัน ถังแก๊สอะเซทิลีน ถังแก๊สฟรีออน และถังออกซิเจนเก็บไว้ที่รถของไวท์

และทางเจ้าหน้าที่สอบสวนเชื่อว่าไวท์เคยประกอบอาชีพเป็นคนขับรถแท็กซีมาก่อน แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สอบสวนจะลงลึกในรายละเอียดภูมิหลังชายผู้นี้ให้มากกว่านี้

นอร์แมนด์ยังให้ข้อมูลเพิ่มถึงเหตุน่าระทึกว่า ไวท์ได้สเปรย์ใส่เจ้าหน้าที่ TSA รวมถึงผู้โดยสารเครื่องบินคนอื่นๆที่เข้าแถวรอการตรวจสัมภาระที่จุดตรวจ และหลังจากนั้นได้ดึงมีดยาวที่ซ่อนอยู่ออกมาจากกางเกง และเจ้าหน้าที่ TSA ที่เป็นชายพยายามทำให้มีดยาวเล่มนี้หลุดออกจากมือไวท์ด้วยกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารในขณะที่เขาผ่านจุดตรวจโลหะ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่คนร้ายวัย 63 ปีไล่ล่าเจ้าหน้าที่หญิง TSA ด้วยมีดยาวที่กวัดแกว่งไปมา และในชั่วอึดใจหลังจากนั้นไวท์โดนผู้ช่วยนายอำเภอประจำพื้นที่ยิงไป 3 ครั้งโนที่ขา อก และหน้าของคนร้าย

บีบีซีรายงานเพิ่มเติมว่า หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ เจรามี ดิดีเออร์ (Jeremy Didier) ผู้โดยสารที่เพิ่งบินมาถึงนิวออร์ลีนส์จากเที่ยวบินฟลอริดาเล่าถึงเหตุการณ์ว่า เขาเห็นชายคนหนึ่งกระโดดขึ้นข้ามผู้โดยสารคนอื่นที่กำลังต่อคิวเข้าแถวเพื่อเช็คบอร์ดดิงพาสเพื่อจะขึ้นเครื่อง และมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ผู้คนต่างหมอบบนพื้นทันที













In Pics :  สุดแปลก!! HBO ไขคดีฆาตกรรม 15 ปีกระจ่าง หลัง “เศรษฐีที่ดินมะกันวัย 71” ยอมรับกับไมค์ที่ไม่ได้ปิดในห้องน้ำ “ฆ่าทุกคนที่เกี่ยวข้อง”
In Pics : สุดแปลก!! HBO ไขคดีฆาตกรรม 15 ปีกระจ่าง หลัง “เศรษฐีที่ดินมะกันวัย 71” ยอมรับกับไมค์ที่ไม่ได้ปิดในห้องน้ำ “ฆ่าทุกคนที่เกี่ยวข้อง”
เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่ทำให้ผู้คนทั่วสหรัฐฯต่างตกตะลึงไปกับข่าว โรเบิร์ต เดิร์สต์ (Robert Durst) ทายาทเรียลเอสเตทชาวอเมริกันวัย 71 ปี ที่ล่าสุดถูกตั้งข้อหา “ฆาตกรรมโดยเจตนา” ซูซาน เบอร์แมน ลูกสาวกลุ่มมาเฟียลาสเวกัส และเพื่อนเก่าคนสนิท หลังเธอถูกพบเป็นศพในวันที่ 23 ธันวาคม 2000 ซึ่งเดิร์สต์จะต้องถูกส่งตัวไปขึ้นศาลที่ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย คดีฆาตกรรมที่ยังไม่ได้ปิดร่วม 15 ปีกระจ่างหลังจากหลักฐานวิดีโอบันทึกเสียงรายการ The Jinx : The Life and Deaths of Robert Durst ของ HBO ถูกมอบให้ตำรวจหลังโปรดิวเซอร์รายการพบว่า เดิร์สต์ได้กล่าวเชิงยอมรับในการลงมือสังหารบุคคลต่างๆ เช่น อดีตภรรยา เพื่อนสนิท รวมไปถึงเพื่อนบ้านในขณะที่เขากำลังใช้ห้องน้ำโดยไม่ทราบว่าไมค์ของรายการนั้นยังทำการบันทึกอยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น