รอยเตอร์/เอเอฟพี - พนักงานสอบสวนซึ่งตรวจวิเคราะห์อุปกรณ์บันทึกเสียงภายในห้องนักบินของเครื่องบินแอร์บัส “เยอรมันวิงส์” ที่ประสบอุบัติเหตุตกบริเวณเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส พบว่านักบินคนหนึ่งเดินออกไปจากห้องควบคุม และกลับเข้าไปอีกไม่ได้ ก่อนที่แอร์บัสลำนี้จะทิ้งตัวโหม่งโลกจนเป็นเหตุให้ผู้โดยสาร 150 คนเสียชีวิตยกลำ
“นักบินที่อยู่นอกห้องเคาะประตูเบาๆ แต่ไม่มีเสียงตอบ” พนักงานสอบสวนซึ่งไม่ระบุชื่อให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส โดยอ้างข้อมูลเสียงที่ได้ยิน
“เขาเริ่มทุบประตูแรงขึ้น แต่ก็ไม่มีเสียงตอบอีก... เราได้ยินชัดเจนทีเดียวว่าเขาพยายามจะพังประตูเข้าไปให้ได้”
ข้อมูลจากกล่องบันทึกเสียงบ่งชี้ว่า นักบินทั้งสองสนทนากันตามปกติเป็นภาษาเยอรมัน ระหว่างนำเที่ยวบิน 4U9525 ออกเดินทางจากเมืองบาร์เซโลนาในสเปนเมื่อเช้าวันอังคาร (24) จากนั้นเก้าอี้นักบินตัวหนึ่งก็ถูกเลื่อนไปข้างหลัง และมีเสียงประตูเปิดและปิดลง ตามมาด้วยเสียงเคาะประตู แต่ไม่มีบทสนทนาอะไรอีกนับจากนั้นจนกระทั่งเครื่องตก
ทั้งนี้ เสียงจากกล่องดำไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้ที่เดินออกจากห้องนักบินเป็นกัปตัน หรือนักบินผู้ช่วย
แหล่งข่าวยังระบุว่า มีเสียงสัญญาณเตือนว่าเครื่องบินลดระดับลงใกล้ถึงพื้น ก่อนที่มันจะตกกระแทกกับหุบเขาชัน
การเก็บกู้และวิเคราะห์อุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบินมีขึ้น ในขณะที่ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี และนายกรัฐมนตรี มาเรียโน ราฮอย แห่งสเปน ได้เดินทางไปยังจุดตกซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส เพื่อแสดงความอาลัยแก่ผู้โดยสารและลูกเรือ 150 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเยอรมันและสเปน
ผู้นำเมืองน้ำหอมสัญญาว่า ฝรั่งเศสจะไม่ยุติการสอบสวนจนกว่าจะทราบสาเหตุที่แท้จริงของการตก ขณะที่หน่วยสืบสวนอุบัติเหตุการบินของฝรั่งเศส (BEA) ชี้ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปต้นตอของโศกนาฏกรรมที่เกิดกับสายการบินต้นทุนต่ำในเครือลุฟต์ฮันซา
“เราสามารถดึงข้อมูลเสียงที่เป็นประโยชน์... แต่ยังสรุปช่วงเวลาที่แน่นอนของเสียงและคำพูดทั้งหมดที่ได้ยินไม่ได้” เรมี ฌูตี ผู้อำนวยการบีอีเอ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่สำนักงานใหญ่ชานกรุงปารีส
เขาบอกว่า การวิเคราะห์เบื้องต้นคงจะใช้เวลา “ไม่กี่วัน” แต่อาจมีข้อผิดพลาดซึ่งจะต้องรอกระบวนการตีความอย่างสมบูรณ์ด้วย
แม้จะเอ่ยถึง “คำพูด” ที่ได้ยินในอุปกรณ์บันทึกเสียง แต่ ฌูตี ก็ปฏิเสธที่จะยืนยันว่านักบินแอร์บัส A320 ทั้งสองคนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนหรือไม่
นิวยอร์กไทม์สอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารซึ่งร่วมอยู่ในกระบวนการสอบสวนว่า นักบินทั้งสองสนทนากันอย่าง “ราบรื่น สบายๆ” ในช่วงที่เครื่องทะยานขึ้นฟ้าใหม่ๆ จากนั้นก็มีเสียงบ่งชี้ว่านักบินคนหนึ่งออกไปจากห้องควบคุม
“เรายังไม่ทราบว่าหนึ่งในสองคนนั้นออกไปทำไม... แต่ที่แน่ๆ คือก่อนเครื่องตกมีนักบินควบคุมอยู่เพียงคนเดียว และเขาไม่เปิดประตูให้”
โฆษกลุฟท์ฮันซ่าแถลงว่า สายการบินได้ทราบรายงานของนิวยอร์กไทม์สแล้ว “แต่ยังไม่ได้รับแจ้งข้อมูลจากทางการที่จะสามารถยืนยันได้... และไม่ขอตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับสาเหตุการตก”
โฆษกผู้นี้ระบุว่า ตั้งแต่เกิดเหตุผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินโดยสารไปพุ่งชนตึกในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ก็มีระเบียบการบินที่กำหนดไว้ว่า ประตูห้องนักบินจะเปิดจากด้านนอกไม่ได้
แบร์นาร์ด คาเซนเนิฟ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส ระบุว่า การก่อการร้ายไม่ใช่สมมติฐานหลัก แต่ผู้อำนวยการบีเออีชี้ว่ายังตัดทฤษฎีใดๆ ออกไปไม่ได้ทั้งสิ้น