รอยเตอร์/เอเอฟพี - เผยเครื่องบินแอร์บัสของเยอรมันวิงส์ สายการบินต้นทุนต่ำในเครือลุฟต์ฮันซา ดิ่งพรวดลงมาจากความสูง 38,000 ฟุต เป็นเวลานานกว่า 8 นาที ก่อนประสบอุบัติเหตุตกลงบริเวณพื้นที่ห่างไกลที่ปกคลุมไปด้วยหิมะของเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส คร่า 150 ชีวิต บนเครื่องยกลำ และในนั้นเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งของเยอรมนีถึง 16 คน ขณะที่ต้นตอของโศกนาฏกรรมยังไม่แน่ชัด เนื่องจากเครื่องบินอยู่ในสภาพดีหลังเพิ่งผ่านการบำรุงรักษามาหมาดๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบกล่องดำที่จะคลี่คลายปริศนานี้แล้ว
เยอรมันวิงส์ ยืนยันว่า เที่ยวบิน 4U 9525 จากบาร์เซโลนา ประเทศสเปน สู่เมืองดุสเซลดอร์ฟ ของเยอรมนี ประสบอุบัติเหตุพร้อมผู้โดยสาร 144 คน และลูกเรือ 6 คน โดยทางสายการบินแห่งนี้เชื่อว่าบนเครื่องมีชาวเยอมนี 67 คน ส่วนรองนายกรัฐมนตรีของสเปน บอกว่าผู้โดยสาร 45 คนมีชื่อเป็นชาวสเปน อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
โฆษกของเยอรมันวิงส์ บอกว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น มีนักเรียน 16 คน และครู 2 คน จากโรงเรียนมัธยมโจเซฟ โคนิง - ยิมเนเซียม ในเมืองฮัลเทิร์น อัม เซ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยอรมนี ซึ่งกำลังกลับจากเดินทางไปศึกษาแลกเปลี่ยนในสเปน ขณะที่ นายโธมัส วินเคลมันน์ ซีอีโอของบริษัทบอกกับผู้สื่อข่าวว่าในจำนวนผู้โดยสาร 144 คนนั้น ยังมีเด็กทารก 2 คน ขณะที่ในส่วนของลูกเรือนั้น แบ่งเป็น 2 คนในห้องนักบินและอีก 4 คนในห้องผู้โดยสาร
ตำรวจฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์ ณ จุดตกของเครื่องบินว่าไม่มีผู้รอดชีวิต และอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการกู้ศพเหยื่อเนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ยากลำบาก “คงต้องใช้เวลาหลายวันในการกู้ศพเหยื่อ จากนั้นแล้วถึงค่อยกู้ซากเครื่องบิน” ส่วนในกรุงปารีส นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ บอกกับรัฐสภาว่ามีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งสามารถลงจอด ณ จุดเกิดเหตุได้แล้วและยืนยันว่าเคราะห์ร้ายที่ไม่มีใครรอดชีวิต ก่อนที่จะเปิดเผยในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบกล่องดำของเครื่องบินแล้ว
“เราพบกล่องดำไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเครื่องบินประสบอุบัติเหตุ ซึ่งมันจะถูกตรวจสอบในทันที เพื่อช่วยให้การสืบสวนมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว” เขากล่าว พร้อมบอกต่อว่าจะมีการกั้นที่เกิดเหตุในช่วงค่ำ เพื่อรับประกันว่าทีมฉุกเฉินจะเข้าถึงพื้นที่ได้ง่ายยิ่งขึ้น
อุบัติเหตุครั้งนี้ถือเป็นเหตุเครื่องบินขนาดใหญ่ตกในแผ่นดินฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โศกนาฏกรรมเครื่องบินคองคอร์ดตกไม่ห่างจากกรุงปารีสเกือบ 15 ปีก่อน
สายการบินเยอรมันวิงส์ เผยด้วยว่า เครื่องบินแอร์บัสเอ 320 ที่ตกบริเวณเทือกเขาแอลป์ในวันอังคาร (24 มี.ค.) เพิ่งไต่สู่ระดับความสูงสำหรับการเดินทางปกติ (cruising altitude) ที่ 38,000 ฟุต ไม่นานก่อนดิ่งลงอย่างฉับพลันเป็นเวลานาน 8 นาที ก่อนประสบอุบัติเหตุ ณ ความสูง 4,900 ฟุตในภูมิประเทศภูเขา
“การติดต่อระหว่างเครื่องบินกับเรดาร์ฝรั่งเศส ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศของฝรั่งเศสขาดหายไปตอนประมาณ 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 16.30น.) ณ ระดับความสูงราว 6,000 ฟุต จากนั้นเครื่องบินก็ประสบอุบัติเหตุ” ซีอีโอของเจอร์มันวิงส์ระบุ
วินเคลมันน์เผยว่า “นักบินมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีและมีชั่วโมงบินราว 6,000 ชั่วโมง ส่วนเครื่องบินผ่านการตรวจเช็กมาเมื่อช่วงฤดูร้อนปี 2013” และการบำรุงรักษาเครื่องบินตามรอบก็เพิ่งดำเนินการโดยลุฟต์ฮันซาไปเมื่อวันจันทร์ (23 มี.ค.) ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่า เครื่องบินลำนี้ไม่มีปัญหาใดๆ ก่อนเทกออฟ ทำให้เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าอะไรคือต้นตอของอุบัติเหตุครั้งนี้ ขณะที่ทางแอร์บัสยืนยันว่าเครื่องบินมีอายุการใช้งานมาแล้ว 24 ปี หลังส่งมอบให้เยอรมันวิงส์เมื่อปี 1991
สำนักงานควบคุมการบินพลเรือนของฝรั่งเศสบอกว่าทางหอควบคุมการบินเป็นฝ่ายเริ่มขั้นตอนฉุกเฉินหลังขาดการติดต่อกับแอร์บัส โดยที่เครื่องบินไม่ได้ส่งสัญญาณแจ้งเหตุร้ายใดๆ
อุบัติเหตุคราวนี้เกิดขึ้นบนเทือกเขาแอลป์ซึ่งมีชื่อเสียงสำหรับเล่นสกี ปีนเขาและล่องแพ แต่มันเป็นงานยากสำหรับหน่วยกู้ภัยที่พยายามเข้าไปให้ถึงจุดเกิดเหตุ โดยทางรัฐมนตรีคมนาคมบอกกับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่า “พื้นที่แถบนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ รถยนต์เข้าไปไม่ได้ มีเพียงเฮลิคอปเตอร์เท่านั้นที่เข้าถึง” นอกจากนี้แล้ว สภาพอากาศก็ยังเป็นอุปสรรคสำคัญ
“จะมีเมฆหมอกหนาปกคลุมพื้นที่ในบ่ายนี้ พายุท้องถิ่น หิมะเหนือระดับความสูง 1,800 เมตร และเมฆหมอกระดับต่ำ จะไม่ช่วยให้เฮลิคอปเตอร์ทำงานง่ายขึ้นเลย” เจ้าหน้าที่จากศูนย์พยากรณ์อากาศท้องถิ่นบอกกับรอยเตอร์
ด้าน คาร์สเทน สปอห์ ซีอีโอของลุฟต์ฮันซา ซึ่งมีแผนลงพื้นที่เกิดเหตุ ระบุว่านี่คือวันที่มืดมนของลุฟต์ฮันซา “ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวและเพื่อนๆ ของผู้โดยสารและลูกเรือ” ทวิตเตอร์ของลฟุต์ฮันซาเผยแพร่ข้อความเสียใจจากสปอห์
โฆษกสำนักงานควบคุมการบินพลเรือนของฝรั่งเศส ระบุว่า บริเวณพื้นที่จุดตกของเครื่องบินลำดังกล่าว อยู่ใกล้กับเมืองบาร์เซลอนเน็ต ห่างจากเมืองนีซไปทางเหนือประมาณ 100 กิโลเมตร ไม่ไกลจากชายแดนอิตาลี
เวลานี้คณะสืบสวนอุบัติเหตุของฝรั่งเศสและเยอรมนีกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดตก ส่วน นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมตรีเมืองเบียร์และนายมาเรียโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน มีแผนเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเช่นกันในวันพุธ (25 มี.ค.) ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เหล่าญาติๆ และครอบครัวผู้เสียชีวิตเดินทางมาถึงสนามบินเอลปราตของเมืองบาร์เซโลนาแล้ว โดยหลายคนร้องไห้โอบกอดปลอดโยนซึ่งกันและกัน ภายใต้การดูแลของตำรวจและเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน
