บีบีซี/เอเอฟพี - การประท้วงอย่างโกรธเกรี้ยวต่อเหตุผู้หญิงคนหนึ่งถูกม็อบรุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิต จากข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงว่าเธอเผาพระคัมภีร์อัลกุรอาน ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้นในอัฟกานิสถาน โดยในวันอังคาร (24 มี.ค.) มีชาวบ้านหลายพันคนออกมารวมตัวเรียกร้องให้นำตัวพวกที่ร่วมกันสังหารเธอมาลงโทษ
ฟาร์คุนดา ถูกรุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อน ทั้งทุบตีด้วยไม้บอสบอล กระทืบ ขว้างปาด้วยก้อนหิน โยนลงจากหลังคา ขับรถทับ และใช้รถยนต์ลากร่างของเธอไปตามท้องถนน นอกมัสยิดแห่งหนึ่ง ในกรุงคาบูล เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (19 มี.ค.) นอกจากนี้แล้วฝูงม็อบยังจุดไฟเผาร่างของเธอและโยนลงสู่แม่น้ำ ท่ามกลางสายตาตำรวจหลายนายแต่ก็ไม่ได้เข้าแทรกแซงแม้แต่น้อย
ในวันอังคาร (24 มี.ค.) เหล่าผู้ประท้วงมากกว่า 2,000 คนรวมตัวกันบริเวณด้านนอกศาลฎีกาในคาบูลท่ามกลางฝนที่ตกลงมา เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมและตะโกนว่า “ไปตายซะ พวกไร้การศึกษา เราต้องการความยุติธรรมให้่ฟาร์คุนดา”
“เธอคือพี่น้องของเรา” อาห์หมัด เซีย หนึ่งในผู้ประท้วงกล่าว “พวกคนที่ฆ่าเธอไม่เคารพต่อผู้หหญิง ไม่เคารพกฎหมายหรือแม้แต่ชะรีอะห์ การตายของเธอควรนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ส่วนโสโรยา พาร์ลิกา นักเคลื่อนไหวสิทธิสตรี เผยต่อว่า “นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อัฟกานิสถาน ที่เราได้เห็นภาพอันโหดร้ายเยี่ยงนี้ มันไม่มีความเป็นมนุษย์เลย และการกระทำต่อผู้หญิงเยี่ยงนี้ไม่ใช่อิสลาม”
ผู้ประท้วงบางส่วนชูป้ายเรียกร้องผู้บัญชาการตำรวจของเมืองลาออก ส่วนย่านกลางกรุงคาบูล ชาวบ้านช่วยกันปลูกต้นไม้ใกล้บริเวณที่ฟาร์คุนดาถูกสังหาร เพื่อไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของเธอ “ฉันรู้สึกเหมือนพวกเขาฆ่าและเผาลูกสาวฉันทั้งเป็น” ผู้หญิงคนหนึ่งที่ร่วมปลูกต้นไม้บอก “คนเหล่านี้ล้วนขี้ขลาดตาขาว พวกเขาควรปกป้องเธอ พวกเขาสามารถปกป้องเธอได้หากต้องการทำเช่นนั้น”
การประท้วงในวันอังคาร (24 มี.ค.) มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (23 มี.ค.) มีผู้ชุมนุมหลายร้อยคนออกมารวมตัวเรียกร้องให้ทางการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ขณะที่ประธานาธิบดีอัสราฟ กานี ประณามเหตุการณ์นนี้และสั่งการให้ดำเนินการสอบสวนการตายของเธอ
นูรูล ฮัก อูลูมิ รัฐมนรีมหาดไทยบอกกับรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ (23 มี.ค.) ข้อเท็จจริงคือ ฟาร์คุนดา ไม่ได้เผาพระคัมภีร์อัลกุรอานตามที่ถูกกล่าวหา “ข้อกล่าวหาที่มีต่อตัวเธอไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง ฟาร์คุนดา เป็นเด็กหญิงที่เลื่อมใสศาสนา เธอไม่เกี่ยวข้อง (เผาพระคัมภีร์) เธอบริสุทธิ์” เขากล่าว “มันน่าเจ็บปวดยิ่งที่เราไม่สามารถปกป้องหญิงสาวที่เคร่งครัดในศาสนา เราหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก”
กระทรวงมหาดไทยเผยในวันอังคาร (24 มี.ค.) การสืบสวนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัย 28 คน เช่นเดียวกับกักกันตัวและสอบปากคำตำรวจ 20 นาย หลังมีข่าวว่าพวกเขาเพิกเฉยไม่ยอมเข้าขัดขวางการลงทัณฑ์โดยศาลเตี้ย นอกจากนี้แล้วหัวหน้าโฆษกของกองกำลังตำรวจคาบูลก็ถูกไล่ออก หลังแสดงความเห็นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ตำหนิการเผาคัมภีร์อัลกุรอานแทนที่จะประณามฝูงม็อบที่ลงประชาทัณฑ์ผู้อื่น
ในพิธีศพของเธอนักเคลื่อนไหวหญิงต่างพากันมาช่วยแบกโลงศพ ซึ่งถือว่าเป็นการแหวกประเพณีที่ปกติแล้วจะเป็นชายเท่านั้นที่ทำหน้าที่ดังกล่าว
คำกล่าวหาเกี่ยวกับการเผาพระคัมภีร์อัลกุรอานเคยกระพือเหตุการณ์ความรุนแรงมาก่อนในอัฟกานิสถาน ประเทศอนุรักษนิยมทางศาสนาแบบสุดโต่ง โดยเมื่อปี 2012 ข่าวคราวการเผาสำเนาอัลกุรอาน ณ ฐานทัพสหรัฐฯแห่งหนึ่งในเมืองบากรัม ทางเหนือของคาบูล จุดชนวนการประท้วงจลาจลต่อต้านอเมริกาอันดุเดือด 5 วัน และเหตุโจมตีทั่วประเทศ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 30 คน