ปัตตานี - กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จัดกิจกรรม “ดะวะห์” ข้าราชการ และผู้นำ 4 เสาหลักสัญจร รวม 3 วัน 4 คืน มุ่งสร้างความสัมพันธ์ และสร้างความสมัครสมานสามัคคี แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ สามารถนำไปปรับปรุงการปฏิบัติงานของแต่ละคนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้น
วันนี้ (9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์สันติสุข กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จัดกิจกรรมดะวะห์ข้าราชการ และผู้นำ 4 เสาหลักสัญจร (มิติด้านความมั่นคง) อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ณ มัสยิดดารุลมุสตอฟา (โครงการประชาร่วมใจทำความดีเพื่อแผ่นดิน) บ้านควนดิน ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม 2558 โดยมีข้าราชการที่นับถือศาสนาอิสลามจากกระทรวง ทบวง กรม กองต่างๆ และผู้นำ 4 เสาหลัก ซึ่งประกอบด้วย ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำธรรมชาติ และประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ประมาณ 200 คน ร่วมกิจกรรม
โดยพักแรมร่วมกันตลอดทั้ง 3 วัน 4 คืน ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ เช่น เรียนรู้การอ่านคัมภีร์อัลกุรอาน การปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง ร่วมละหมาด 5 เวลา ละหมาดเสริม และการละหมาดตะฮยุด เพื่อดุอาร์ขอความสันติให้เกิดขึ้น ตลอดจนการจัดชุดออกเยี่ยมผู้นำ และประชาชนในพื้นที่เชิญชวนร่วมกิจกรรม และฟังบรรยายฮีดายะห์ (แนะนำการปฏิบัติธรรม) จากผู้นำอาวุโส และมีความรู้ร่วมกัน
นายอดิมาน มะแอ ประธานชมรมดะวะห์ข้าราชการและผู้นำ 4 เสาหลัก กล่าวว่า กิจกรรรมครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 66 ซึ่งได้เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อปี 2552 โดยกำหนดให้มีขึ้นเดือนละ 1 ครั้ง หมุนเวียนไปตามสถานที่ต่างๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งนอกจากมีวัตถุประสงค์ในการทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกันแล้ว ที่สำคัญคือ เป็นการเปิดโอกาสที่ดีทำให้มีการพบปะกันระหว่างข้าราชการมุสลิม กับผู้นำ 4 เสาหลักในพื้นที่ ได้ทำความรู้จัก สร้างความสัมพันธ์ และสร้างความสมัครสมานสามัคคี แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ สามารถนำไปปรับปรุงการปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละคนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้น
นายอับดุลอายิ สาแม็ง อดีตสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดยะลา สมาชิกชมรม ซึ่งได้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ กล่าวว่า สังคมในปัจจุบันทำให้การดำเนินชีวิตของผู้คนต้องอยู่ในสภาพที่ต้องดิ้นรนแข่งขัน ซึ่งอาจนำมาสู่การละเลย และบกพร่องเรื่องศาสนา กิจกรรมนี้นอกจากทำให้ข้าราชการและผู้นำในพื้นที่มีโอกาสพบปะกันแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ดีที่แต่ละคนจะได้ปรับปรุง ฟื้นฟูการปฏิบัติศาสนกิจ เพิ่มพูนความรู้ เพิ่มความศรัทธายึดมั่น และปฏิบัติตามหลักศาสนาอย่างสมบูรณ์ นับเป็นกิจกรรมที่ดีที่ต้องให้การส่งเสริมเพื่อขยายผลไปสู่คนทั่วไปให้กว้างขวางยิ่งขึ้นต่อไป