บีบีซี - ชาวอัฟกานิสถานหลายร้อยคนในวันจันทร์ (23 มี.ค.) ออกมาชุมนุมต่อต้านเหตุเสียชีวิตของผู้หญิงที่ถูกฝูงชนรุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม หลังคนเหล่านั้นเชื่อว่าเธอเผาพระคัมภีร์อัลกุรอาน แม้ไม่มีหลักฐานใดๆ ก็ตาม
ผู้หญิงรายนี้ที่มีชื่อว่า ฟาร์คุนดา ถูกฝูงม็อบรุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อน ทั้งทุบตีด้วยไม้บอสบอล กระทืบ ขับรถทับ และใช้รถยนต์ลากร่างของเธอไปตามท้องถนน ก่อนจุดไฟเผา ในเหตุการณ์อันน่าสลดซึ่งเกิดขึ้นใกล้มัสยิดและศาสนสถานชาห์-ดู-ชัมไชรา ในกรุงคาบูล เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (19 มี.ค.)
ตำรวจ 13 นายถูกสั่งพักงานหลังมีข้อกล่าวหาว่าพวกเขาเพิกเฉยไม่เข้าขัดขวางการกระทำอันเหี้ยมโหดของฝูงม็อบ ขณะที่ผู้ประท้วงเรียกร้องขอความยุติธรรมและปลูกต้นไม้ไว้เป็นที่ระลึกให้เธอด้วย
ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่ง เล่าว่า ฝูงชนกล่าวหาเธอว่าเผาสำเนาพระคัมภีร์อัลกุรอาน แต่เจ้าหน้าที่สืบสวนคนหนึ่งเผยไม่พบหลักฐานใดๆ ว่าเธอทำเช่นนั้น
“เมื่อคืน ผมได้ตรวจดูเอกสารและหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ผมไม่พบหลักฐานใดๆ เลยที่บอกได้ว่า ฟาร์คุนดา เผาพระคัมภีร์อัลกุราน” พลตำรวจเอก โมฮัมหมัด ซาฮีร์ บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างร่วมพิธีศพของเธอเมื่อวันอาทิตย์ (22 มี.ค.) “ฟาร์คุนดา เป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง”
เชื่อว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ในอัฟกานิสถาน และด้วยเหตุนี้ทางประธานาธิบดี อัสราฟ กานี จึงได้สั่งการด้วยตนเองให้ดำเนินการสอบสวนการตายของเธอ
ในพิธีศพของเธอนักเคลื่อนไหวหญิงต่างพากันมาช่วยแบกโลงศพ ซึ่งถือว่าเป็นการแหวกประเพณีที่ปกติแล้วจะเป็นชายเท่านั้นที่ทำหน้าที่ดังกล่าว
เบื้องต้นมีคำกล่าวอ้างที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับสภาวะทางจิตของผู้หญิงคนนี้ โดยพ่่อและแม่ของเธอบอกว่าลูกสาวของพวกเขามีปัญหาอาการทางจิตมาตลอดช่วง 16 ปีที่ผ่านมา แต่เพื่อนบ้านคนหนึ่งกลับบอกว่าฟาร์คุนดากำลังฝึกอบรมเพื่อเป็นครู