เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ส่งสารแสดงความเสียใจไปยังรัฐบาลสิงคโปร์วานนี้ (22 มี.ค.) หลังทราบข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรี ลี กวน ยู โดยยกย่อง ลี ผู้วายชนม์เป็น “ยักษ์ใหญ่ในประวัติศาสตร์ตัวจริง” ขณะที่ผู้นำนานาชาติต่างแสดงความอาลัยในการจากไปของรัฐบุรุษผู้สร้างชาติสิงคโปร์
โอบามา มีถ้อยแถลงผ่านทำเนียบขาว โดยระบุว่าตนชื่นชมในความเฉียบแหลมของอดีตนายกฯ ลี เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อได้สนทนากันระหว่างที่ตนไปเยือนสิงคโปร์เมื่อปี 2009 เพื่อผลักดันนโยบายปักหมุดในเอเชีย-แปซิฟิก
“ท่านเป็นยักษ์ใหญ่ในประวัติศาสตร์ตัวจริง ซึ่งจะถูกจดจำไปชั่วลูกชั่วหลานในฐานะบิดาแห่งสิงคโปร์ยุคใหม่ และเป็นนักยุทธศาสตร์ด้านกิจการเอเชียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง”
“มุมมองและวิสัยทัศน์ของอดีตนายกฯ ลี เกี่ยวกับพลวัตและการจัดการเศรษฐกิจเอเชียได้รับการยกย่องจากผู้คนทั่วโลก มีผู้นำประเทศไม่ใช่น้อยทั้งในอดีตและปัจจุบันที่นำหลักธรรมาภิบาลและการพัฒนาที่ท่านได้เสนอแนะไว้ไปปรับใช้”
สำนักนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ระบุว่า ลี วัย 91 ปี ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ ได้จากไปอย่างสงบที่โรงพยาบาลสิงคโปร์เจเนอรัล เมื่อเวลา 03.18 น. ของวันนี้ (23 มี.ค.)
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสิงคโปร์ระบุในวันอาทิตย์ (22)ว่า สุขภาพของ ลี กวน ยู ซึ่งกำลังต่อสู้กับโรคปอดบวมรุนแรงอยู่ในโรงพยาบาล มีอาการย่ำแย่ลงไปกว่าเดิม โดยอดีตผู้นำสิงคโปร์ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสิงคโปร์เจเนอรัลเป็นเวลากว่า 6 สัปดาห์ และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ขณะที่ประชาชนจำนวนมากต่างนำดอกไม้และการ์ดมาวางไว้บริเวณด้านนอกของโรงพยาบาลเพื่อส่งความระลึกถึงไปยัง ลี
ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ของจีน ได้ร่วมอาลัยการจากไปของอดีตผู้นำสิงคโปร์ โดยระบุว่า ลี กวน ยู เป็น “มิตรเก่าแก่ของชาวจีน” และ “ได้รับการยกย่องจากประชาคมโลกว่าเป็นทั้งนักยุทธศาสตร์และรัฐบุรุษคนสำคัญ” พร้อมกันนั้นก็ได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของ ลี ด้วย
เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของจีนยังได้เผยแพร่สารแสดงความอาลัยที่ สี่ ส่งไปยังประธานาธิบดี โทนี ตัน แห่งสิงคโปร์ ซึ่งมีใจความว่า อดีตนายกฯ ลี กวน ยู เป็น “ผู้สถาปนา ผู้ริเริ่ม และผู้ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างจีนและสิงคโปร์”
หง เล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ก็ได้แถลงผ่านเว็บไซต์วันนี้(23)เช่นกันว่า อดีตนายกฯ ลี กวน ยู เป็นเสมือน “รัฐบุรุษแห่งเอเชียผู้มีอิทธิพลโดดเด่นไม่เหมือนใคร” และยังเป็น “นักยุทธศาสตร์ที่เปี่ยมด้วยค่านิยมแบบตะวันออก และมุมมองที่เป็นสากล”
ลี ยังเป็น “ผู้ให้กำเนิดและผู้สถาปนา” ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสิงคโปร์ซึ่งมีพลเมืองลูกหลานมังกรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และได้อุทิศตนเพื่อส่งเสริมมิตรภาพอันดีระหว่างทั้ง 2 ประเทศมาโดยตลอด
“รัฐบาลจีนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและความห่วงใยอย่างจริงใจไปยังรัฐบาลสิงคโปร์ ประชาชน ตลอดจนครอบครัวของคุณ ลี กวน ยู เนื่องในการจากไปของท่าน” หง กล่าว
ลี เป็นรัฐบุรุษผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงการเมืองสิงคโปร์มานานกว่า 5 ทศวรรษ และแนวคิดเรื่องวินัยการคลังควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของเขาก็ได้กลายเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงที่มีการปฏิรูปเศรษฐกิจ
ข้อมูลจากเว็บไซต์ NetEase ของจีน ระบุว่า ลี กวน ยู ได้ไปเยือนแดนมังกรถึง 33 ครั้งตั้งแต่ปี 1976
นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย ก็ได้แสดงความอาลัยไปยังรัฐบาลสิงคโปร์ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิด โดยกล่าวสรรเสริญ ลี ว่าเป็นผู้ปลุกปั้นเกาะสิงคโปร์จนกลายเป็น “ประเทศที่ทันสมัยและมีพลวัต”
“ผมเสียใจที่ได้ทราบข่าวการจากไปของคุณ ลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีผู้สร้างชาติสิงคโปร์” คำแถลงจากสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระบุ
“ผมขอยกย่องความมุ่งมั่นของอดีตนายกฯ ลี ที่ได้พัฒนาสิงคโปร์จากความเป็นรัฐเกิดใหม่จนกลายมาเป็นประเทศที่ทันสมัยและมีพลวัตได้อย่างทุกวันนี้... ความสำเร็จที่ท่านทำไว้ยิ่งใหญ่เหลือเกิน และจะเป็นมรดกที่สืบทอดต่อไปถึงลูกหลานอย่างแน่นอน”
ความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์ไม่สู้จะราบรื่นนัก นับตั้งแต่ ลี กวน ยู นำพาสิงคโปร์แยกตัวเป็นรัฐเอกราชในปี 1965 หลังจากที่เคยรวมกันเป็นสหภาพมลายาชั่วระยะเวลาสั้นๆ
อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 ชาติต่างตระหนักในความจำเป็นที่จะต้องทำนุบำรุงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้มั่นคง โดยเฉพาะในด้านการค้าที่สิงคโปร์และมาเลเซียผูกพันกันอย่างแยกไม่ออก ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างอบอุ่นเป็นพิเศษภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก และนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ผู้เป็นบุตรชายของ ลี กวน ยู
“รัฐบาลมาเลเซียยืนยันว่าจะรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับสิงคโปร์ ตลอดจนสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันระหว่างเราทั้ง 2 ประเทศ” นาจิบ ระบุ