รอยเตอร์ – จีนและญี่ปุ่นเปิดฉากการเจรจาด้านความมั่นคง 2 ฝ่ายครั้งแรกในรอบ 4 ปีในวันนี้ (19) โดยทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนทนาแลกเปลี่ยนอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งถือเป็นความพยายามที่มุ่งเยี่ยวยาความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ถูกฉุดรั้งด้วยประเด็นการรุกรานของญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกและกรณีพิพาททางดินแดน
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และอันดับ 3 ของโลกอยู่ในภาวะมึนตึงจากสิ่งที่จีนมองว่าญี่ปุ่นไม่มีความเต็มใจที่จะชดเชยความผิดช่วงสงครามของตน ตลอดจนกรณีพิพาทเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก
เรือตรวจการณ์และเครื่องบินขับไล่จากทั้งสองฝ่ายมักคอยจับตาสังเกตการณ์อีกฝ่ายใกล้กับหมู่เกาะร้างแห่งนี้ที่ญี่ปุ่นควบคุมอยู่ แต่ก็ถูกอ้างกรรมสิทธิ์โดยพญามังกรเช่นกัน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกลัวว่า การปะทะกันโดยไม่ตั้งใจอาจจุดชนวนความขัดแย้งให้เกิดขึ้น
การเคลื่อนไหนของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งแดนอาทิตย์อุทัยที่จะผ่อนปรนข้อจำกัดของรัฐธรรมนูนฉบับสินติภาพของญี่ปุ่นในเรื่องกองทัพนั้นทำให้จีนประสาทเสีย โดยญี่ปุ่น ระบุว่า นโยบายความมั่นคงของจีนนั้นขาดความโปร่งใส
อาเบะ จัดการประชุมอย่างเป็นทางการกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านทา ในการประชุมครั้งนั้น ซึ่ง สี ชมเชยว่าเป็นก้าวย่างแรกสู่ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะทำงานเพื่อบังคับใช้กลไกการจัดการวิกฤตทวิภาคี
รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศของสองประเทศพบปะกันในวันนี้ (19) เพื่อร่วมการเจรจานานหนึ่งวัน
“ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและจีนกำลังค่อยๆ มีความคืบหน้าทีละน้อย นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังมีความกังวลอยู่เกี่ยวกับนโยบายความมั่นคงของแต่ละฝ่าย” ชินสุเกะ ซูกิยามะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ระบุ
“วิธีที่ดีที่สุดที่จะคลายความกังวลนี้คือจัดการสนทนาแลกเปลี่ยนอย่างตรงไปตรงมา”
หลิว เจียนเชา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าว จีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเจรจาและการปรึกษาหารือ
“ผมหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนมุมมองกันอย่างสร้างสรรค์ , ตรงไปตรงมา และอยู่ในแนวทางที่ปฏิบัติได้จริงผ่านการเจรจาครั้งนี้ ตลอดจนบรรลุเป้าหมายต่างๆ อย่างเช่น สงวนความต่างเล็กๆ น้อยๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม , ปลูกฝังความไว้เนื้อเชื่อใจ และส่งเสริมความร่วมมือ” เขากล่าวผ่านล่ามแปลภาษา
ในการเจรจาเมื่อปีที่แล้ว สี และ อาเบะ เห็นพ้องที่จะให้มีการจัดตั้งศูนย์สายด่วนระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ตลอดจนการสื่อสารระหว่างเรือและเครื่องบินเพื่อบอกเจตนาของแต่ละฝ่าย และเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ