รอยเตอร์ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ (18 มี.ค.) เคลื่อนไหวขยับเข้าใกล้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 หลังถอดคำว่า “อดทน” ออกจากถ้อยคำที่ใช้ เปิดโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน แต่ตลาดคาดคะเนว่ากว่าจะปรับขึ้นจริงก็น่าจะเป็นเดือนกันยายน หลังจากลดประมาณการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดขึ้นทันทีขานรับถ้อยแถลงดังกล่าวของเฟด ขณะที่พันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลอเมริกา ลดลงต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังดูเหมือนว่ามีเจ้าหน้าที่เฟดสายกลางมากขึ้นที่ไม่เห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
“ส่วนใหญ่แล้วเป็นไปตามความคาดหมาย พวกเขาไม่ได้แถลงถึงเวลาที่แน่นอนของการขึ้นดอกเบี้ย แม้ว่ายังมีความกังวลต่อพวกเฟดสายเหยี่ยวอยู่บ้าง และมันสามารถอธิบายถึงการปรับขึ้นของตลาดหุ้นในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี” จอห์น คารีย์ ผู้จัดการการลงทุนของไพโอเนียร์ อินเวสต์เมนท์ แมนเนจเมนท์ ในบอสตันกล่าว
ในถ้่อยแถลงที่เผยแพร่ออกมาตามหลังการประชุม 2 วัน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ย้ำถึงมุมมองที่ว่าตลาดแรงงานฟื้นตัวแล้ว พร้อมระบุการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยวางอยู่บนโต๊ะพิจารณา แต่ก็เปิดทางให้เฟดมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะเคลื่อนไหวดังกล่าวในช่วงปลายปีแทน ด้วยยืนกรานว่าการตัดสินใจใดๆจะขึ้นอยู่กับข้อมูลต่างๆ ที่กำลังเข้ามา
“คณะกรรมการคาดหวังว่าจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเหมาะสมตามขอบเขตเป้าหมาย เมื่อพบเห็นการฟื้นตัวเพิ่มเติมในตลาดแรงงานและมีความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผลว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับต่ำกว่าร้อยละ 2 ตามเป้าหมายระยะกลาง” เฟดระบุในถ้อยแถลง
เฟดชี้แจงด้วยว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ณ ที่ประชุมคราวต่อไปในเดือนเมษายน และบอกว่าการเปลี่ยนแปลงในคำชี้แนะล่วงหน้าเกี่ยวกับแนวทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ไม่ได้หมายความว่าธนาคารกลางแห่งนี้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกรอบเวลาของการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว หลังจากที่ประชุมครั้งก่อนหน้านี้ เฟด ใช้ถ้อยคำว่าจะ “อดทน” ในการพิจารณากำหนดเวลาสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ เฟดมีท่าทีระมัดระวังมากขึ้นต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วยปรับลดมุมมองต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจลง โดยระบุจะเติบโตค่อนข้างปานกลาง แตกต่างจากเมื่อเดือนธันวาคม ที่อ้างว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับเตี้ยติดพื้นมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 โดยหนสุดท้ายที่ธนาคารกลางสหัฐฯ ปรับขึ้น คือ ในเดือนมิถุนายน 2006 ช่วงเวลาที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังเฟื่องฟูและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง กระตุ้นให้เฟดต้องดันอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับร้อยละ 5.25