เอเอฟพี - ทีมสืบสวนของเกาหลีใต้กล่าวโทษเกาหลีเหนือในวันนี้ (17 มี.ค.) ว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ต่อบริษัทโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของโสมขาวหลายครั้ง และระบุว่าเป้าหมายของโจมตีดังกล่าวคือเพื่อจุดชนวนความไม่สงบในสังคม
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กลุ่มแฮกเกอร์ได้เผยแพร่พิมพ์เขียว, คู่มือการใช้ และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับเตาปฏิกรณ์ของเกาหลีใต้บนทวิตเตอร์ ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้ปฏิบัติงานที่บริษัท โคเรียไฮโดร แอนด์ นิวเคลียร์ เพาเวอร์ (NHNP)
การรั่วไหลดังกล่าวกระตุ้นให้เกาหลีใต้ต้องยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ และจัดตั้งทีมสืบสวนพิเศษ ที่ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ, เจ้าหน้าที่รัฐบาล และอัยการรัฐ
ทีมสืบสวนระบุว่า กลุ่มแฮกเกอร์มีความตั้งใจที่จะทำให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทำงานผิดปกติ แต่ไม่สามารถเจาะเข้าไปยังระบบควบคุมของเตาเหล่านั้นได้
พวกเขากล่าวว่า ชุดรหัสคำสั่งประสงค์ร้ายที่ถูกใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้คล้ายคลึงชุดรหัสที่แฮกเกอร์โสมแดงเคยใช้ก่อนหน้านี้
“เราได้ข้อสรุปว่า อาชญากรรมครั้งนี้ก่อโดยแฮกเกอร์เกาหลีเหนือที่พยายามจะจุดชนวนความไม่สงบในสังคมขึ้นในประเทศของเรา” พวกเขาระบุในถ้อยแถลง
ทีมสืบสวนระบุว่า กลุ่มแฮกเกอร์ซึ่งใช้หลายไอพีแอดเดรสในจีน ได้ส่งอีเมล “ลวง” ราว 6,000 ฉบับไปยังผู้ปฏิบัติงานที่ทำงานให้กับ KHNP ทั้งในอดีตและปัจจุบันเพื่อลักขโมยข้อมูล
เจ้าหน้าที่ของ KHNP ระบุว่า เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 23 เตาของเกาหลีใต้ ซึ่งจ่ายไฟฟ้าร้อยละ 30 ของพลังงานไฟฟ้าทั้งประเทศ ปลอดภัยแล้ว เพราะว่าระบบควบคุมของมันอยู่คนละส่วนกับเครือข่ายภายนอก
พวกเขายังระบุด้วยว่า ข้อมูลที่กลุ่มแฮกเกอร์ปล่อยแพร่ออกไปไม่ได้ถือเป็นความลับและไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย
โซลกล่าวโทษแฮกเกอร์เกาหลีเหนือว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ต่อสถาบันทางทหาร, ธนาคาร, หน่วยงานรัฐ, สถานีวิทยุและโทรทัศน์ และเว็บไซต์สื่อในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
สหรัฐฯ ก็ระบุด้วยว่า โสมแดงอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัท โซนี่ พิคเจอร์ เพราะภาพยนตร์เสียดสีเกาหลีเหนือเรื่อง “The Interview” ของบริษัทนี้
เปียงยางปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮกบริษัทดังกล่าว แต่ประณามอย่างรุนแรงต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งมีเค้าโครงเรื่องว่าด้วยการวางแผนลอบสังหารผู้นำ คิม จองอึน
