เอเจนซีส์ - สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯในซาอุดิอาระเบีย ประกาศปิดงดให้บริการ 2 วัน ในวันอาทิตย์และจันทร์ (15-16 มี.ค.) หลังจากเตือนพลเมืองอเมริกันและคนงานตะวันตกในอุตสาหกรรมน้ำมัน ให้ระมัดระวังถูกโจมตีหรือลักพาตัวโดยกลุ่มก่อการร้าย ในอีกด้านหนึ่ง ทางเอกอัครสมณทูตนครวาติกัน ประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา บอกว่า สนับสนุนการใช้กำลังจัดการกับไอเอส หากหนทางการเมืองถึงทางตัน ทั้งนี้ เพื่อปกป้องชนกลุ่มน้อยทางศาสนา ไม่เฉพาะชาวคริสต์ จากการถูกกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งนี้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ออกคำแถลงผ่านเว็บไซต์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (14) ว่า สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลต่างๆ ของอเมริกา ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงริยาด เมืองเจดดาห์ และเมืองดาห์ราน จะปิดทำการในวันอาทิตย์และจันทร์ รวมทั้งเตือนพลเมืองอเมริกันในซาอุดีอาระเบียให้ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ และขอให้พลเมืองงดเดินทางสู่ประเทศนี้หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ
ขณะที่ฟอกซ์นิวส์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในหน่วยงานความมั่นคงอเมริกันว่า ภัยคุกคามนี้รุนแรงมากพอที่สถานเอกอัครราชทูตจะตัดสินใจให้มีเฉพาะเจ้าหน้าที่สำคัญประจำอยู่ในสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลในประเทศนั้น ในช่วงสองวันดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ (13) สถานเอกอัครราชทูตอเมริกันในกรุงริยาด เพิ่งออกคำเตือนพนักงานชาวตะวันตกในบริษัทน้ำมันในซาอุดีอาระเบียว่า อาจตกเป็นเป้าหมายการโจมตีหรือลักพาตัวของกลุ่มก่อการร้าย
อย่างไรก็ดี สถานเอกอัครราชทูตอเมริกันไม่ได้ระบุว่า ภัยคุกคามนี้มาจากกลุ่มใด รวมทั้งไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแผนการโจมตี
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียเป็นชาติหนึ่งที่เข้าร่วมการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและซีเรีย ที่มีวอชิงตันเป็นแกนนำ และเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ประเทศนี้อาจถูกนักรบญิฮัดหัวรุนแรงสุดโต่งกลุ่มนี้แก้แค้น
นับจากเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เกิดเหตุชาวตะวันตกในซาอุดีอาระเบียถูกโจมตี 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย วินเนลล์ อาระเบีย บริษัทรับเหมาสัญญาโครงการกลาโหมของสหรัฐฯ เผยว่า พนักงานที่เป็นชาวอเมริกัน 2 คนถูกยิงในจังหวัดอีสเทิร์น โพรวินซ์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของบ่อน้ำมันส่วนใหญ่ของประเทศนี้
ตำรวจซาอุดีฯ เผยว่า ชาวอเมริกัน 1 ใน 2 คนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ ทว่า ไม่ได้เปิดเผยผลการสอบสวนแต่อย่างใด
อีสเทิร์น โพรวินซ์ ซึ่งพลเมืองส่วนใหญ่เป็นชาวชีอะห์ ยังคงมีปัญหาความไม่สงบจากชนกลุ่มน้อยที่ปะทะกับตำรวจเป็นระยะ
นอกจากนี้ ริยาดยังกล่าวหาผู้ต้องสงสัยโยงใยกับกลุ่มไอเอสว่าเป็นตัวการสังหารชาวชีอะห์ 7 คนในอีสเทิร์น โพรวินซ์เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย
ก่อนหน้านั้น ในระหว่างปี 2003-2006 มีชาวตะวันตกหลายคนถูกสังหารจากการโจมตีของกลุ่มอัล-กออิดะห์ในซาอุดีอาระเบีย
ในอีกด้านหนึ่ง สถานีวิทยุและโทรทัศน์บีบีซี รายงานคำสัมภาษณ์ของ อาร์คบิช็อป ซิลวาโน โทเมซี นักการทูตอาวุโสที่สุดของนครวาติกันประจำสหประชาชาติ ณ เจนีวา ที่ให้สัมภาษณ์ “ครูซ” เว็บไซต์ของนิกายคาทอลิกในสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเขาระบุว่า พวกนักรบญิฮัดกำลัง “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ซึ่งนานาชาติต้องร่วมกันหยุดยั้ง
ปกติแล้ว วาติกันมักคัดค้านการแทรกแซงทางทหารในตะวันออกกลาง ทว่า เดือนที่แล้ว พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงประณามการฆ่าตัดคอชาวคริสต์นิกายคอปติกในอียิปต์ 21 คนโดยกลุ่มไอเอสในลิเบีย และตรัสว่า การหยุดยั้งกลุ่มที่ใช้ความก้าวร้าวนี้เป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย
นักรบหัวรุนแรงสุดโต่งกลุ่มนี้กำลังไล่สังหารชนกลุ่มน้อยทางศาสนาในพื้นที่ที่ยึดครองได้ทั้งในซีเรียและอิรัก นอกจากนั้นประชาชนอีกมากมายยังถูกบีบบังคับให้ทิ้งถิ่นฐาน
อาร์กบิช็อปโทเมซียังกล่าวอีกว่า สิ่งที่จำเป็นต้องสร้างขึ้นมาคือ กลุ่มพันธมิตรที่มีการประสานงานอย่างดีและทำทุกอย่างเพื่อหาทางไกล่เกลี่ยทางการเมืองโดยปราศจากความรุนแรง
“แต่หากไม่สามารถทำได้ ก็จำเป็นต้องใช้กำลัง
“เราจำเป็นต้องหยุดยั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ ก่อนที่จะมาเสียใจในภายหลังที่ปล่อยให้โศกนาฏกรรมร้ายแรงนี้เกิดขึ้น”
อาร์กบิช็อปโทเมซีชี้ว่า ชาวคริสต์เป็นเป้าหมายหลักของพวกไอเอส แต่ชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ยาซิดิส ชีอะห์ สุหนี่ อลาวิต ก็ล้วนเป็นมนุษย์ที่มีสิทธิ์ได้รับการปกป้องคุ้มครองเช่นเดียวกัน
เอกอัครสมณทูตแห่งวาติกันยังกล่าวต่ออีกว่า กลุ่มพันธมิตรใดๆ ก็ตามที่จะจัดตั้งขึ้นมานั้น จะต้องมีบรรดารัฐอิสลามในตะวันออกกลางเข้าร่วมด้วย โดยมียูเอ็นเป็นแกนนำ
ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ องค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งเตือนว่า ไอเอสกำลังพยายามกำจัดกวาดล้างกลุ่มชนกลุ่มน้อยในอิรักจากพื้นที่กว้างขวางในประเทศนั้น โดยในรายงานระบุถึงการประหารชีวิต การบังคับให้เปลี่ยนศาสนา การข่มขืน และการล่วงละเมิดอื่นๆ ต่อชนกลุ่มน้อย
คำสัมภาษณ์ของอาร์กบิช็อปโทเมซี ได้รับการเผยแพร่ออกมาในวันเดียวกับที่ประเทศต่างๆ กลุ่มหนึ่งนำโดยสำนักวาติกัน รัสเซีย และเลบานอน ร่วมกันออกคำแถลงเรียกร้องให้นานาชาติให้การสนับสนุนชนกลุ่มน้อยและชุมชนของศาสนาต่างๆ ในตะวันออกกลาง
วาติกันระบุว่า กว่า 60 ประเทศ ซึ่งรวมถึงอเมริกา ให้การรับรองคำแถลงดังกล่าว ซึ่งเตือนว่า ชนกลุ่มน้อยทางศาสนา โดยเฉพาะชาวคริสต์ขณะนี้ “มีชีวิตอยู่ท่ามกลางภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของพวกเขาอย่างร้ายแรง