เอเจนซีส์ - ยูเอ็น-วอชิงตันรุมประณาม หลังมีข่าวกลุ่มนักรบญิฮัดสุดโต่ง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ลักพาตัวชาวคริสต์ 220 คนจากทางเหนือของซีเรีย โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาจใช้เป็นโล่มนุษย์หรือแลกเปลี่ยนกับนักโทษญิฮัด
เหตุการณ์การลักพาตัวดังกล่าวซึ่งมีจำนวนเหยื่อมากกว่ารายงานก่อนหน้านี้ถึงกว่าสองเท่าตัว กลายเป็นปัจจัยผลักดันให้ชาวคริสเตียนอื่นๆ มากมายทิ้งบ้านหนีก่อนถูกมุสลิมหัวรุนแรงนิกายสุหนี่เหล่านี้จับกุม
ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ กลุ่มติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในซีเรียที่มีฐานในลอนดอน โดยมีจุดยืนต่อต้านรัฐบาลอัล-อัสซาด และสนับสนุนพวกกบฎที่ไม่ใช่พวกอิสลามิสต์สุดโต่ง แถลงเมื่อวันพุธ (25 ก.พ.) ว่ามีชาวอัสซีเรียที่นับถือศาสนาคริสต์จำนวนไม่น้อยกว่า 220 คน ถูกกลุ่มไอเอสจับตัวไปจาก 11 หมู่บ้านในจังหวัดฮาซาเกห์ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (23) โดยขณะนี้ ผู้นำชนเผ่าอาหรับและสมาชิกชุมชนอัสซีเรียกำลังพยายามเจรจาเพื่อให้มีการปล่อยตัวตัวประกันเหล่านั้น ซึ่งมีจำนวนมากที่เป็นเด็ก คนชรา และผู้หญิง
ทั้งนี้ จังหวัดฮาซาเกห์ที่กั้นระหว่างตุรกีและอิรัก กลายเป็นสนามรบแห่งใหม่ในการต่อสู้เพื่อปราบปรามไอเอสในซีเรีย โดยประชาชนส่วนใหญ่ของเมืองนี้เป็นชาวเคิร์ด แต่มีชาวอาหรับ อัสซีเรีย และอาร์เมเนียปะปนอยู่ด้วย
เจน ซากี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประณามว่า การที่ไอเอสพุ่งเป้าที่ชนกลุ่มน้อยทางศาสนาเป็นหลักฐานล่าสุดที่ตอกย้ำว่า กลุ่มนี้ปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยมทารุณ ต่อผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเป้าหมายในการแบ่งแยกและความเชื่ออย่างผิดๆ ของตน
ท่าทีดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากเบอร์นาเด็ตตี มีแฮน โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ประกาศว่า นานาชาติจะยืนหยัดร่วมกันทำลายล้างความเลวทรามต่ำช้าของไอเอส และประณามการลักพาตัวครั้งนี้ พร้อมเรียกร้องให้ไอเอสปล่อยตัวประกันทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
ทางด้านอุสซามาะห์ เอ็ดเวิร์ด ผู้อำนวยการกลุ่มอัสซีเรียน ฮิวแมน ไรต์ส เน็ตเวิร์ก แสดงความเชื่อมั่นว่า การลักพาตัวครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการที่นักรบญิฮัดเพลี่ยงพล้ำในสนามรบจากการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ
เอ็ดเวิร์ดสำทับว่า มีความเป็นไปได้ว่าไอเอสจับตัวประกันไปเป็นโล่มนุษย์ หรือใช้แลกเปลี่ยนกับนักรบของตัวเองที่ถูกศัตรูจับไป
ก่อนที่สงครามกลางเมืองในซีเรียระเบิดขึ้นในปี 2011 มีชาวอัสซีเรียในประเทศนี้ราว 30,000 คน จากพลเมืองคริสเตียนทั้งหมดราว 1.2 ล้านคน
อัสซีเรีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในชุมชนชาวคริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ถูกคุกคามหนักขึ้นมากนับจากไอเอสเข้ายึดครองพื้นที่กว้างขวางในซีเรีย
ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่แล้ว เครือข่ายไอเอสในลิเบียได้เผยแพร่คลิปการตัดศีรษะชาวคริสต์นิกายคอปติก 21 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวอียิปต์
ที่กรุงวอชิงตัน จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า แม้ไม่ได้ร่วมมือกัน แต่อเมริกาและอิหร่านมีผลประโยชน์ร่วมกันในการกำจัดไอเอส โดยขณะนี้ กองกำลังเตหะรานกำลังต่อสู้กับนักรบกลุ่มนี้ในบริเวณชายแดนที่ติดกับอิรัก
ขณะเดียวกัน บนเว็บไซต์นักรบญิฮัดได้มีการป่าวร้องโฆษณาครั้งใหญ่ให้สนับสนุน “รัฐอิสลาม” ของไอเอส พร้อมขู่โจมตีตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกา
ทั้งนี้ สงครามในซีเรียเริ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2011 จากการประท้วงอย่างสันติของกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตยที่ต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และลุกลามกลายเป็นสงครามกลางเมืองซึ่งดึงดูดนักรบต่างชาติหลั่งไหลเข้าสู่สนามรบแห่งนี้
ในวันพฤหัสบดี นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส มานูเอล วาลส์ ประณามอย่างรุนแรงว่า การตัดสินใจของสมาชิกรัฐสภา 3 คน ในการเดินทางไปพบอัสซาด ที่ถือเป็น “ฆาตกร” ที่กรุงดามัสกัสเมื่อวันพุธนั้น เป็นความล้มเหลวทางจริยธรรมโดยสิ้นเชิง