รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี แห่งอียิปต์ ประกาศจะตอบโต้การสังหารพลเมืองตามแนวทางที่รัฐบาลเห็นสมควร หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการฆ่าตัดคอชาวคริสต์อียิปต์ 21 คนอย่างโหดเหี้ยม เมื่อวานนี้( 15 ก.พ.)
ผู้นำอียิปต์แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์แห่งชาติหลังคลิปถูกปล่อยเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะเลือก “วิธีที่จำเป็น และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการแก้แค้นเหตุสังหารหมู่” ครั้งนี้
สำนักข่าว MENA ยังอ้างคำพูดของโฆษกคริสตจักรคอปติก ที่ยืนยันว่าชาวคริสต์อียิปต์ 21 คนที่เข้าใจว่าถูกไอเอสจับเป็นตัวประกันได้เสียชีวิตแล้ว
การฆ่าตัดคอชาวอียิปต์ครั้งนี้อาจทำให้ อัล-ซีซี ต้องตัดสินใจใช้ไม้แข็งจัดการกับกลุ่มติดอาวุธที่แฝงตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างลิเบีย เพื่อคอยบ่อนทำลายรัฐบาลของเขาที่มีสหรัฐฯ หนุนหลังอยู่
รัฐบาลอียิปต์ยังปฏิเสธรายงานที่ว่าไคโรมีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มติดอาวุธในลิเบีย เช่นเดียวกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
คลิปวิดีโอที่ไอเอสเผยแพร่ล่าสุดเป็นภาพนักรบชุดดำคุมตัวประกันในชุดสีส้มไปยังชายทะเลแห่งหนึ่งซึ่งไอเอสระบุว่าอยู่ไม่ไกลจากกรุงตริโปลี จากนั้นจึงบังคับให้ตัวประกันชาวอียิปต์คุกเข่า และลงมือตัดคอพวกเขา
ข้อความซึ่งปรากฏในคลิปความยาว 5 นาทีเขียนว่า “ประชาชนแห่งไม้กางเขน ผู้ศรัทธาของโบสถ์อียิปต์” และก่อนที่การสังหารจะเริ่มขึ้น นักรบรายหนึ่งที่ยืนถือมีดอยู่ได้กล่าวออกมาว่า “ความปลอดภัยของพวกนักรบครูเสดเป็นสิ่งที่คุณจะได้แต่หวังเท่านั้น”
ชาวอียิปต์หลายพันคนหลั่งไหลเข้าไปหางานทำในลิเบียนับตั้งแต่บ้านเมืองตนเองเกิดวิกฤตความมั่นคงที่สืบเนื่องมาจากการโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค เมื่อปี 2011 ขณะที่รัฐบาลไคโรเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยง เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ความมั่นคงในลิเบียกำลังย่ำแย่ลงทุกขณะ
อัล-ซีซี ได้เรียกประชุมฉุกเฉินกับบรรดาผู้นำกองทัพ จากนั้นจึงประกาศให้มีการไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 7 วัน
คริสตจักรคอปติกแสดงความเชื่อมั่นว่ากรุงไคโรจะต้องคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ตายทั้ง 21 คน ในขณะที่มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮาร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ศาสนาอิสลามในอียิปต์ยืนยันว่าไม่มีศาสนาใดในโลกที่ยอมรับ “พฤติกรรมป่าเถื่อน” อย่างที่ไอเอสกำลังกระทำอยู่
อียิปต์ซึ่งเป็นรัฐอาหรับที่มีพลเมืองหนาแน่นที่สุด ไม่ได้มีส่วนโดยตรงกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรักและซีเรียที่สหรัฐฯ เป็นผู้นำ โดยมุ่งตอบสนองภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายในเขตแดนของตนเองที่นับวันจะทวีความสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น
กลุ่มนักรบ “จังหวัดซีนาย” (Sinai Province) ซึ่งเคยใช้ชื่อเดิมว่า “อันซอร์ บัยตุลมักดิส” และเป็นกลุ่มที่ประกาศสวามิภักดิ์ต่อไอเอสแล้ว ได้เข่นฆ่าทหารและตำรวจอียิปต์ไปหลายร้อยนาย นับตั้งแต่ประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ซึ่งเป็นผู้นำจากสายอิสลามิสต์ถูกกองทัพที่นำโดย อัล-ซีซี ก่อรัฐประหารในปี 2013
ในส่วนของลิเบียก็กำลังเผชิญกับภาวะไร้ขื่อแปและวิกฤตด้านความมั่นคงที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี หลังเกิดความแตกแยกทางการเมืองอย่างหนักจากการที่มีการจัดตั้งรัฐบาลแข่งกันถึง 2 ชุด ซึ่งต่างอ้างว่าฝ่ายตนเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมเพียงฝ่ายเดียว
เจ้าหน้าที่ตะวันตกเกรงว่า เหตุจลาจลที่เกิดจากการแก่งแย่งอำนาจในลิเบียอาจกลายเป็นโอกาสให้นักรบอิสลามิสต์แผ่ขยายอิทธิพล
กลุ่มอิสลามิสต์จำนวนมากลงมือก่อกวนความมั่นคงในลิเบีย และมีบางกลุ่มที่ตัดสินใจผูกมิตรกับไอเอส หลังการล่มสลายของรัฐบาลมูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อปี 2011 ทำให้ลิเบียปราศจากซึ่งรัฐบาลที่มีอำนาจเข้มแข็งมาโดยตลอf
วิกฤตความมั่นคงในลิเบียที่ส่อเค้าลุกลามข้ามพรมแดนทำให้อียิปต์จำเป็นต้องยกระดับศักยภาพกองทัพ ล่าสุดประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศสเปิดเผยว่า อียิปต์จะสั่งซื้อฝูงบินขับไล่ราฟาเอล 24 ลำ, เรือรบเคลื่อนที่เร็ว 1 ลำ และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจากฝรั่งเศส โดยจะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายมูลค่ากว่า 5,000 ล้านยูโรที่กรุงไคโรในวันนี้ (16 ก.พ.)