รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดรวม 4 ครั้ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คนที่เมืองไมดูกูรีทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียในวันเสาร์ (7 มี.ค.) ถือเป็นเหตุโจมตีที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโก ฮารัม” พยายามบุกเข้ายึดเมืองแห่งนี้มาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้งเมื่อช่วงต้นปี
แม้จนถึงขณะนี้จะยังไม่มีการออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีระลอกล่าสุด แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงของไนจีเรียชี้ว่า เหตุระเบิดที่เมืองไมดูกูรีน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มโบโก ฮารัมที่ก่อความรุนแรงมานานกว่า 6 ปีเพื่อสถาปนา “รัฐอิสลามสุดโต่ง” ขึ้นในไนจีเรีย ดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของทวีปแอฟริกา
คลีเมนต์ อโดดา ผู้บัญชาการตำรวจของรัฐบอร์โนซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุยืนยันว่า เกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดรวม 4 ครั้งในเมืองไมดูกูรีที่เป็นเมืองเอกของรัฐนี้จริง ขณะที่ซาลิซู ควายา บูรา หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ประจำโรงพยาบาลหลักของรัฐบอร์โนออกมาระบุว่าได้รับร่างของผู้เสียชีวิตรวม 50 ศพจากจุดที่เกิดการระเบิดทั้ง 4 แห่ง และเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 36 คน
ที่ผ่านมารัฐบาลไนจีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีกู๊ดลัค โจนาธานถูกวิจารณ์หนัก ถึงความล้มเหลวในการกวาดล้างกลุ่มโบโก ฮารัมและยุติเหตุรุนแรงที่ก่อโดยนักรบอิสลามิสต์กลุ่มนี้ ซึ่งสามารถยึดครองพื้นที่ทางภาคเหนือของไนจีเรียได้อย่างต่อเนื่องจนมีดินแดนในความควบคุมขนาดพอๆกับเนื้อที่ของประเทศเบลเยียม ขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปของไนจีเรียได้ถูกเลื่อนจากเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ไปเป็นวันที่ 28 มีนาคมนี้ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
