ยุติธรรมสหรัฐฯ เมินเอาผิด ตร.ผิวขาวยิงคนดำตายในมิสซูรี ฐานละเมิดสิทธิพลเมือง

เอเอฟพี - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (4 มี.ค.) จะไม่ดำเนินคดีฐานละเมิดละเมิดสิทธิพลเมืองกับนายตำรวจผิวขาวนายหนึ่งของเมืองเฟอร์กูสัน มลรัฐมิสซูรี ที่ก่อเหตุยิงวัยรุ่นผิวสีปราศจากอาวุธเสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน ซึ่งเรียกเสียงเอะอะโวยวายทั่วประเทศ

การตัดสินใจไม่ดำเนินคดีกับอดีตนายตำรวจดาร์เรน วิลสัน ฐานละเมิดสิทธิพลเมือง ถูกเปิดเผยออกมาเคียงข้างรายงานที่ยอมรับความผิดพลาดของกรมตำรวจในย่านชานเมืองเซนต์หลุยส์ ต่อกรณีเล็งเป้าหมายโดยอัตโนมัติต่อพลเมืองอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน

“เพราะว่าพฤติกรรมของวิลสัน ไม่มีเจตนาทางอาญา มันไม่สามารถพิสูจน์โดยปราศจากข้อกังขาต่อคณะลูกขุนว่าเขาละเมิดสิทธิพลเมือง ตอนที่เขายิงปืนใส่นายบราวน์” กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุ “ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่ชี้แจงข้างต้น เรื่องนี้ขาดองค์ประกอบในการดำนินคดีและควรปิดคดีลง”

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน คณะลูกขุนใหญ่ในเซนต์หลุยส์ เคาน์ตี ตัดสินใจไม่สั่งฟ้องนายวิลสัน โดยบอกว่าเขาไม่มีความผิดต่อกรณีการเสียชีวิตของนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีวัย 18 ปี

การเสียชีวิตของวัยรุ่นรายนี้บนถนนแถบที่พักอาศัยในเมืองที่มีคนผิวสีเป็นชนกลุ่มใหญ่ แต่ตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว กระพือให้เกิดการประท้วงยืดเยื้อนานหลายสัปดาห์และกระตุ้นให้เกิดการโต้เถียงทั่วประเทศเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านสีผิวกับการบังคับใช้กฎหมาย

นายวิลสันบอกกับคณะลูกขุนใหญ่ว่าเขาจำเป็นต้องยิงนายบราวน์ ซึ่งต้องสงสัยขโมยกล่องซิการ์จากร้านค้าตรงหัวมุม เพื่อปกป้องตนเอง แต่ผู้คนอื่นๆโต้เถียงว่าเห็นนายบราวน์ชูมือขึ้นแล้วตอนที่ถูกนายตำรวจรายนี้ยิงด้วยปืนสั้น ขณะที่ปัจจุบันนายวิลสัน ลาออกจากการเป็นตำรวจแล้ว

ก่อนหน้าการตัดสินใจไม่ดำเนินคดีกับนายวิลสัน มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากสื่อมวลชนชื่อดังหลายแห่งของสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างผลการสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมเมื่อวันอังคาร (3 มี.ค.) พบว่าตำรวจในเมืองมิสซูรี ที่สั่นสะเทือนด้วยเหตุจลาจลทางเชื้อชาติเมื่อปีที่แล้ว เลือกที่รักมักที่ชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันอยู่เป็นประจำมานานหลายปี

รายงานระบุผลการสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมต่อกรมตำรวจในเมืองเฟอร์กูสัน พบรูปแบบการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติอย่างกว้างขวาง และละเมิดสิทธิพลเมืองตามรัฐธรรมนูญมากมาย

โดยในรายงานระบุว่าจากการสัมภาษณ์ผู้คนหลายร้อย ประกอบกับเอกสารอย่างเป็นทางการหลายพันหน้า บ่งชี้ว่าตำรวจเฟอร์กูสัน มักเรียกให้ผู้ขับขี่ลงจากรถจักรยานยนต์โดยปราศจากข้อสงสัยที่สมเหตุสมผลอยู่เป็นประจำ รวมทั้งดำเนินการจับกุมโดยไม่มีมูลเหตุที่น่าจะเป็นและใช้กำลังเกินกว่าเหตุ

ในขณะที่คนเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันคิดเป็น 2 ใน 3 ของประชาชนเฟอร์กูสัน พบว่าในจำนวนผู้ต้องสงสัยทั้งหมดที่ถูกตำรวจจับกุมตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปี 2014 เป็นคนผิวสีร้อยละ 93 นอกจากนี้แล้วในบรรดาประชาชนที่ถูกตำรวจเฟอร์กูสันเรียกตรวจ มีถึงร้อยละ 85 ที่เป็นคนสายแอฟริกัน-อเมริกัน

อนึ่ง การใช้ปฏิบัติการรุนแรง รวมถึงใช้อาวุธและยานพาหนะในรูปแบบทหารของกองกำลังตำรวจเฟอร์กูสัน สำหรับจัดการกับผู้ประท้วงเมื่อปีที่แล้ว กระพือเสียงโวยวายและเรียกความสนใจจากสื่อมวลชนนานาชาติเป็นอย่างมาก