เอเอฟพี – ผู้อำนวยการด้านสิทธิขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุในวันนี้ (2) ว่า นับตั้งแต่ความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 6,000 คน พร้อมทั้งกล่าวประณาม “การทำลายล้างชีวิตพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานอย่างไร้ความปราณี”
รายงานฉบับที่ 9 ของยูเอ็นเกี่ยวสถานการณ์ในยูเครนอธิบายถึงสถานการณ์ของพัฒนาการต่างๆ ในประเทศนี้ และเตือนถึงความขัดแย้งที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงนับตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมา
“ในเวลาไม่ถึงปีความขัดแย้งในภาคตะวันออกของยูเครนคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 6,000 คน” เซอิด ราอัด อัลฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น กล่าวในถ้อยแถลง
เขาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพข้อตกลงสันติภาพกรุงมินสก์และ “ยุติการยิงปืนใหญ่อย่างไม่เจาะจงเป้าหมาย รวมถึงยุติความมุ่งร้ายอื่นๆ ที่ทำให้เกิดสถานการณ์อันน่าหวั่นกลัวสำหรับพลเรือน”
ในการกล่าวเพื่อเผยแพร่รายงานฉบับนี้ที่กรุงเจนีวา อิวาน ซีโมโนวิค เลขาธิการคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น ระบุว่า “การเจตนาพุ่งเป้าโจมตีพื้นที่ของพลเรือนอาจถือเป็นอาชญากรรมสงคราม และหากกระทำอย่างแพร่หลายและเป็นระบบ จะถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”
ความคิดเห็นของพวกเขามีออกมาในขณะที่ความสงบตามแนวหน้าในภาคตะวันออกของยูเครนได้ก่อให้เกิดความหวังว่าฝ่ายต่างๆ กำลังมุ่งสู่การบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงที่มียุโรปเป็นคนกลาง
รายงานฉบับนี้ให้รายละเอียดว่า ความขัดแย้งนี้กำลังส่งผลกระทบต่อพลเรือนอย่างไร รวมไปถึงการกักขังตามอำเภอใจ , การทรมาน และการบังคับให้สูญหาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วกระทำโดยพวกกลุ่มติดอาวุธ แต่ก็มีมีบางกรณีที่กระทำโดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของยูเครน
รายงานฉบับนี้แสดงถึงข้อสงสงสัยว่าอาจมีการประหารชีวิตแบบศาลเตี้ย , แบบนอกกระบวนการยุติธรรม และแบบตามอำเภอใจเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงกรณีทหารยูเครนที่ถูกพบว่า “ถูกมัดมือไว้กับสายไฟฟ้าสีขาว” ที่สนามบินโดเนตสก์ หลังจากลุ่มติดอาวุธเข้ายึดครองสถานที่แห่งนี้ได้ในเดือนมกราคม
รายงานฉบับนี้ ซึ่งถูกนำออกเผยแพร่เพียงไม่กี่วันหลังจากช่างภาพชาวยูเครน เซอร์กีย์ นิโคลาเยฟ ถูกสังหาร ยังได้แสดงถึงความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีและการกดดันต่อผู้สื่อข่าวในประเทศนี้
รายงานฉบับนี้พบว่า นับตั้งแต่ความขัดแย้งนี้ปะทุขั้นมาจนถึงเมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว ได้มีผู้ถูกสังหารแล้ว 5,665 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13,961 คน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของ ซาอิด ระบุว่า การต่อสู้ที่เพิ่มสูงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะแถวสนามบินโดเนตสก์และรอบเมืองเดบัลต์เซเว ได้คร่าชีวิตพลเมืองและนักรบแล้วหลายร้อยราย ทำให้ยอดรวมอาจพุ่งเกิน 6,000 คนไปแล้ว
