รอยเตอร์ – รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยอมรับภารกิจค้นหาเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์สยังไม่มีความคืบหน้า เผยกำลังหารือกับทางมาเลเซียและจีนว่าควรจะยุติปฏิบัติการทั้งหมดภายในอีกไม่กี่สัปดาห์หรือไม่ เพราะให้ค้นหา “ตลอดกาล” คงเป็นไปไม่ได้
การสูญหายของเที่ยวบิน MH370 ยังคงเป็นปริศนาที่คาใจชาวโลก เพราะไม่มีการค้นพบร่องรอยของมันเลยนับตั้งแต่โบอิ้ง 777 ลำนี้ได้สูญหายไปจากจอเรดาร์เมื่อกลางดึกของวันที่ 8 มีนาคม 2014 ขณะนำผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คนเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังปลายทางกรุงปักกิ่ง
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า เครื่องบินลำนี้ถูกบังคับออกนอกเส้นทางไปหลายพันไมล์ และคงจะตกลงสู่ทะเล ณ จุดใดจุดหนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย
อย่างไรก็ตาม การค้นหาซากเครื่องบินในบริเวณน่านน้ำ 60,000 ตารางกิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งเมืองเพิร์ทไปทางตะวันตกราว 1,600 กิโลเมตร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าน่าจะเป็นจุดตกของ MH370 อาจจะต้องสิ้นสุดลงภายในเดือนพฤษภาคม
วอร์เรน ทรัสส์ รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ทุกฝ่ายจะต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจะขยายพื้นที่ค้นหาออกไปเป็น 1.1 ล้านตารางกิโลเมตรหรือไม่ หากว่ายังไม่พบชิ้นส่วนใดๆ เลยเช่นนี้
ทรัสส์ ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้เริ่มหารือแล้วว่าควรจะดำเนินการอย่างไรในสถานการณ์เช่นนั้น รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะยกเลิกภารกิจค้นหา
“สำหรับครอบครัวผู้โดยสาร พวกเขาคงไม่ต้องการยุติจนกว่าจะมั่นใจว่าพบซากเครื่องบินแล้ว หรืออาจจะกู้ร่างบุคคลที่พวกเขารักขึ้นมาได้”
“เราคงไม่สามารถค้นหาไปตลอดกาล แต่เราก็อยากทำทุกวิถีทางที่จะพอจะเป็นไปได้ เพื่อหาจุดตกของเครื่องบินให้เจอ” ทรัสส์ กล่าว
รองนายกฯ ออสซี่ยังได้เปรียบเทียบภารกิจค้นหา MH370 ที่สูญเสียงบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์การบินว่าไม่ต่างจากการสืบหาร่องรอยของ อาเมเลีย เอียร์ฮาร์ต นักบินหญิงชาวอเมริกันรุ่นบุกเบิกที่สูญหายไปกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ขณะพยายามเดินทางรอบโลกเมื่อปี 1937
โดรนใต้น้ำซึ่งติดตั้งบนเรือค้นหา 4 ลำจากบริษัทวิศกรรม ฟูโกร ของเนเธอร์แลนด์ ได้ทำการสำรวจไปแล้วราวๆ 40% ของพื้นทะเลในจุดที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงสุดว่าจะพบซากเครื่องบิน
ออสเตรเลียและมาเลเซียได้ร่วมกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการค้นหา ซึ่งประเมินว่าอยู่ที่ราวๆ 52 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในขณะนี้ แต่ ทรัสส์ เตือนว่า การขยายพื้นที่ค้นหาออกไปอีกคงจะเป็นไปได้ยาก เว้นแต่นานาชาติจะยื่นมือสนับสนุนอีกแรง
เรดาร์ทหารตรวจจับได้ว่า MH370 ซึ่งกำลังมุ่งหน้าออกสู่ทะเลจีนใต้ได้หันหัวกลับมายังคาบสมุทรมลายูหลังขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมไปแล้ว และสัญญาณ Ping อ่อนๆ ที่ดาวเทียมพาณิชย์ค้นพบตลอด 6 ชั่วโมงถัดมาก็ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถกำหนดพื้นที่ค้นหาให้แคบลงได้บ้าง
มาร์ติน โดแลน ประธานคณะกรรมาธิการความปลอดภัยขนส่งออสเตรเลีย (ATSB) ระบุว่า ตนยังมั่นใจว่าซาก MH370 จะต้องจมอยู่ก้นทะเลภายในพื้นที่ค้นหาหลัก (priority search area) ส่วนที่ยังรอการสำรวจ แต่หากต้องขยายพื้นที่ค้นหาให้กว้างขวางออกไปเป็น 1.1-1.2 ล้านตารางกิโลเมตรตามทฤษฎีที่เป็นไปได้ ค่าใช้จ่ายจะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่รัฐบาลออสเตรเลียและมาเลเซียจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ
ผู้โดยสารบนเที่ยวบิน MH370 ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และชาวมาเลเซีย
หง เล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า ออสเตรเลีย จีน และมาเลเซีย ได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดในเรื่องนี้
“ฝ่ายออสเตรเลียได้ทุ่มเททั้งกำลังคนและทรัพยากรเป็นจำนวนมาก เรารู้สึกซาบซึ้งในความช่วยเหลือครั้งนี้... การค้นหายังคงดำเนินต่อไป และเราหวังว่าจะมีความคืบหน้าในที่สุด” หง กล่าว