เอเอฟพี - ออสเตรเลียออกมาระบุในวันนี้ (20 ก.พ.) ว่าฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่น คือประเทศที่มีศักยภาพพอจะเป็นหุ้นส่วนกับตนในการออกแบบและพัฒนาเรือดำน้ำสำหรับยุคถัดไป ซึ่งเป็นโครงการจัดซื้อจัดจ้างด้านกลาโหมขนาดใหญ่
เควิน แอนดรูว์ รัฐมนตรีกลาโหมแดนจิงโจ้ระบุว่า ออสเตรเลียกำลังมองหาสิ่งที่จะมาทดแทนเรือ “คอลลินส์ คลาส” ที่ล้าหลัง ซึ่งทั้งสามประเทศดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการออกแบบและผลิตเรือดำน้ำที่ดี
“ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่น มีชื่อปรากฏขึ้นมาในฐานะของชาติที่มีศักยภาพพอจะเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศ” เขากล่าว พร้อมกับบอกด้วยว่า สิ่งที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในการพิจารณาก็คือระบบที่สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีทางทหารของสหรัฐฯ ในอนาคตได้
เรือดำน้ำ “คอลลินส์ คลาส” ที่ออสเตรเลียใช้อยู่ในปัจจุบัน ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงดีเซล มีกำหนดจะถูกปลดระวางในปี 2026 ส่วนโครงการเรือดำน้ำรุ่นใหม่ที่จะมาทดแทนนั้นมีมูลค่าประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท)
กองทัพออสเตรเลียได้ยืนยันไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่ามีการพูดคุยกับญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ แต่การแสดงความเห็นในครั้งล่าสุดนี้ นับเป็นครั้งแรกที่มีการตีวงให้แคบลง สำหรับรายชื่อชาติที่มีศักยภาพเพียงพอที่ออสเตรเลียจะเชื้อเชิญให้มาร่วมเป็นหุ้นส่วนของโครงการเรือดำน้ำสำหรับยุคหน้าที่มีมูลค่ามหาศาล
นายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ ระบุว่า การสร้างเรือดำน้ำเป็นธุรกิจที่มีความซับซ้อนมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศกับชาติอื่นๆ
“มันแทบไม่ต่างอะไรจากการสร้างยานสำรวจอวกาศเลย มันยากและซับซ้อนถึงขนาดนั้นจริงๆ” แอ็บบอตต์ บอกนักข่าว
แอ็บบอตต์เปิดเผยด้วยว่า นอกจากเยอรมนี ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ยังมีรัสเซียกับจีนที่มีศักยภาพเพียงพอ แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่างทำให้ในสถานการณ์ปกติแล้ว ออสเตรเลียจะไม่เลือกเป็นหุ้นส่วนกับจีนหรือรัสเซียในโครงการพัฒนายุทโธปกรณ์
รัฐบาลออสเตรเลียระบุว่า จะรอดูข้อเสนอจากทั้งสามชาติเกี่ยวกับตัวเลือกในการออกแบบและพัฒนาเรือดำน้ำยุคใหม่นี้ ว่าจะผลิตกันในต่างประเทศหรือในออสเตรเลีย หรือทั้งสองอย่าง อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลว่าอุตสาหกรรมต่อเรือภายในประเทศอาจจะต้องเจ็บช้ำ หากออสเตรเลียเลือกที่จะซื้อเรือดำน้ำแบบทำเสร็จพร้อมใช้งานทันทีมาจากญี่ปุ่นหรือจากผู้จัดจำหน่ายต่างชาติรายอื่นๆ
แต่ถึงกระนั้นออสเตรเลียก็ยังหวังว่าการทำงานในส่วนขั้นตอนการผลิตน่าจะเกิดขึ้นในแดนจิงโจ้ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานทักษะสูงอย่างน้อย 500 ตำแหน่ง
การแข่งขันในช่วงประเมินผลคาดว่าจะกินเวลาประมาณ 10 เดือน หลังจากนั้นจะมีการเลือกชาติที่จะมาเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศ
นอกจากจะเทียบชั้นกับ “คอลลินส์ คลาส” ได้ทั้งในแง่ของระยะทำการและความทนทาน เจ้าเรือดำน้ำรุ่นใหม่นี้ยังถูกคาดหวังว่าจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับที่สามารถทำงานได้อย่างเหนือชั้น พร้อมด้วยระบบการพรางตัวแบบสเตลท์
ส่วนระบบการต่อสู้และอาวุธหลักของเรือดำน้ำรุ่นใหม่นี้จะเป็นตอร์ปิโดขนาดใหญ่ที่ออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาได้ทำการพัฒนาร่วมกัน