เอเอฟพี - เมื่อวานนี้(18)ผู้ประท้วงอาร์เจนตินาไม่ต่ำกว่า 400,000 คนเดินขบวน "Marcha del silencio" เรียกร้องความยุติธรรมถึงเงื่อนงำการเสียชีวิตให้กับ อัลเบอร์โต นิสแมน วัย 51 ปี อดีตอัยการอาเจนตินา คู่ปรับประธานาธิบดีหญิง กริสตีนา เอลิซาเบต เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ ที่เสียชีวิตในเดือนที่ผ่านมา 1 วันก่อนที่เขาจะขึ้นให้การต่อรัฐสภาอาร์เจนตินาในความเกี่ยวข้องของผู้นำหญิงต่อคดีระเบิดศูนย์กลางยิว 1994ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 85 คน
“ดิฉันมาที่นี่เพื่อจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับใครคนหนึ่งที่อุทิสชีวิตเพื่อสืบหาความจริง” มาร์ธา คาเนปา (Marta Canepa) ครูวัย 65 ปี หนึ่งในผู้ประท้วงที่เดินขบวนร่วม 1.7 กม. ถือป้ายประท้วง “ไว้อาลัยให้กับอัยการ อัลเบอร์โต นิสแมน” การประท้วงครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ "Marcha del silencio" เพื่อนิสแมนท่ามกลางสายฝน ที่นำโดยกลุ่มอัยการอาร์เจนตินาและบรรดาผู้นำฝ่ายค้าน ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในแดนฟ้าขาว ท่ามกลางความอึมครึมของการสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของนิสแมน และสร้างแรงสั่นสะเทือนโดยตรงต่อการดำรงตำแหน่งปีสุดท้ายของประธานาธิบดีหญิง กริสตีนา เอลิซาเบต เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์
นอกจากคลื่นผู้ร่วมประท้วงคนอื่นๆ บุตรสาวทั้งสองของนิสแมน และอดีตภรรยา ผู้พิพากษา แซนดรา อาร์โรโย เดลกาโด (Sandra Arroyo Delgado) รวมอยู่ในนี้ด้วย
ซึ่งศพของนิสแมนวัย 51 ปีถูกพบในอพาทเมนท์ส่วนตัวในกรุงบัวโนสไอเรสเมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา โดยร่างของเขามีกระสุนปืนฝังอยู่บริเวณศรีษะ 1 วันก่อนที่นิสแมนจะมีโอกาสขึ้นให้การต่อรัฐสภาอาร์เจนตินา ที่เขาได้พบว่าเฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ และรัฐมนตรีต่างประเทศอาร์เจนตินาของเธอได้ร่วมกันสมคบคิดเพื่อปกป้องอดีตเจ้าหน้าที่อิหร่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบก่อการร้ายระเบิด AMA หน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรของชาวยิวกลางกรุงบัวโนสไอเรสในปี 1994 และส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 85 คน และบาดเจ็บอีก 300 คน ซึ่งถือเป็นการก่อการร้ายที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 21 ปีที่ยังปิดคดีไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ผู้นำหญิงที่ประกาศจะไม่ลงรับสมัครรักษาตำแหน่งประธานาธิบดีหญิงในสมัยหน้า ได้ให้ความเห็นต่อการประท้วงเกือบครึ่งล้านคนว่า “เป็นความพยายามที่จะบ่อนทำลายความมั่นคงรัฐบาลอาร์เจนตินา” และในการแถลงต่อสถานีโทรทัศน์อาร์เจนตินาก่อนที่จะมีการเริ่มต้นเดินขบวนครั้งใหญ่ของเหล่าผู้สนับสนุนนิสแมน เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ ได้ชี้ถึงผู้ที่อาจอยู่เบื้องหลังข่าวฉาว แต่ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยของคดี “ดิฉันขอให้ชาวอาร์เจนตินาเปิดตาให้กว้าง ดิฉันไม่ได้กำลังจะกล่าวถึงทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด แต่มันเป็นโลกของผลประโยชน์ที่ต้องการทำงานให้กับผู้อื่น และในขณะนี้คนเหล่านั้นกำลังเผชิญหน้ากับรัฐบาลอาร์เจนตินาเหมือนที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ทางเราจะไม่ยอมให้ใครมาออกข้อจำกัดได้” ทั้งนี้ที่ปรึกษาระดับสูงของเธอชี้ว่า สหรัฐฯและอิสราเอลพยายามลากอาร์เจนตินาเข้าไปสู่วังวนของความขัดแย้งในตะวันออกกลาง