เอเจนซีส์ - หลังการเสียชีวิตปริศนาของอัยการอาร์เจนตินา อัลเบอร์โต นิสแมน (Alberto Nisman) วัย 51 ปียังไม่คลี่คลาย ล่าสุด ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา กริสตีนา เอลิซาเบต เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ ประกาศสั่งยุบหน่วยงานสำนักเลขาธิการข่าวกรองอาร์เจนตินาในวันจันทร์(26) โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ข่าวกรองแดนฟ้าขาวต้องการโค่นล้มตัวผู้นำหญิง โดยร่วมมือกับนิสแมน และได้ลอบดักฟังทางโทรศัพท์ ซึ่งก่อนหน้าที่นิสแมนจะเสียชีวิต เขามีกำหนดต้องเดินทางให้ปากคำกับรัฐสภาอาร์เจนตินาในความเกี่ยวพันของ เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ และอิหร่านกับข้อตกลงลับที่ทำการช่วยเหลือไม่ให้เจ้าหน้าที่อิหร่านต้องถูกลงโทษในคดีโจมตี AMIA องค์กรการกุศล ศูนย์กลางชาวยิวในกรุงบัวโนสไอเรส ปี 1994 และการเสียชีวิตของนิสแมนทำให้มีการสงสัยโยงไปถึงผู้นำหญิงอาร์เจนตินา ที่ทางการสรุปในเบื้องต้นก่อนหน้านี้ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
เดอะ การ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(27) ว่า ในการออกแถลงการณ์ล่าสุดทางโทรทัศน์ของประธานาธิบดีอาร์เจนตินา กริสตีนา เอลิซาเบต เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ เธอได้ประกาศยุบเครือข่ายข่าวกรองระดับประเทศของอาร์เจนตินา ในความคืบหน้าล่าสุดเชื่อมโยงกับเหตุเสียชีวิตของอัยการอาร์เจนตินา อัลเบอร์โต นิสแมน (Alberto Nisman) วัย 51 ปีที่อ้างว่า มีหลักฐานการใช้โทรศัพท์ที่มีข้อความสนทนาติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบาลอาร์เจนตินาและเจ้าหน้าที่อิหร่านในคดีระเบิดAMIA ปี 1994 กลางเมืองหลวงอาร์เจนตินาที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 85 คนในขณะนั้น และถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำหญิงปรากฏตัวออกโทรทัศน์นับตั้งแต่นิสแมนถูกพบเป็นศพภายในอพาทเมนต์ของเขาเองในวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา โดยเฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ แถลงว่า ในญัตติด่วนของการประชุมรัฐสภาอาร์เจนติน่า เธอจะสนับสนุนร่างกฎหมายประกาศยุบสำนักเลขาธิการข่าวกรองแห่งชาติอาร์เจนตินาที่มีเจ้าหน้าที่ทำงานไม่ต่ำกว่า 2,000 คน และจะปรับเปลี่ยนให้เป็นสำนักงานหน่วยงานข่าวกรองแห่งชาติอาร์เจนตินาโครงสร้างใหม่แทน เพราะในปัจจุบันโครงสร้างเดิมของสำนักงานแห่งนี้ยังมีรูปแบบโครงสร้างที่ไม่ต่างจากเมื่อครั้งรัฐบาลเผด็จการทหารปกครองอาร์เจนตินา ซึ่งสิ้นสุดลงในปี 1984 บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติม
ซึ่งแผนครั้งนี้ถูกประกาศขึ้นหลังประธานาธิบดีหญิงชี้ว่า มีความพยายามที่จะโค่นล้มเธอ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลอาร์เจนตินาอ้างเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองแดนฟ้าขาวได้ร่วมมือกับนิสแมน และได้มอบข้อมูลดักฟังทางโทรศัพท์ให้เขา โดยเฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางอินเตอร์เนตในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นิสแมนถูกสังหารเพื่อทำให้รัฐบาลของเธอได้รับความอับอาย และยังเล็งผลต้องการขยายประเด็นการสอบสวนที่มีตัวเธอเข้าเกี่ยวข้อง “ พวกเขาเหล่านั้นต้องการใช้เขาในยามที่เขามีชีวิต และในขณะนี้พวกเขาต้องการให้ชายผู้นี้เสียชีวิต” เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ แถลงผ่านอินเตอร์เนตหลังการเสียชีวิตของนิสแมน ที่เธอปักใจว่าเป็นเหตุฆาตกรรมไม่ใช่การฆ่าตัวตายเหมือนอย่างเช่นมีการเปิดเผยในเบื้องต้น NPR News สื่อสหรัฐฯรายงาน
นอกจากนี้เดอะการ์เดียนรายงานเพิ่มเติมว่า Antonio Stiuso ในเดือนที่ผ่านมาที่ยังคงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการปฎิบัติการในสำนักเลขาธิการข่าวกรองแห่งชาติอาร์เจนตินา และได้ลอบดักฟังโทรศัพท์ของคู่แข่งคนสำคัญทางการเมืองของเฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ โดยStiuso ถูกไล่ออกเมื่อประธานาธิบดีหญิงตรวจพบว่า เขาได้ร่วมมือกับนิสแมนเพื่อสืบคดีชี้มูลความผิดตัวเธอ และในขณะนี้เชื่อกันว่าอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้นี้หลบหนีอยู่ในสหรัฐฯ
และยังพบว่า ลาโกมาร์ซิโน (Lagomarsino) ชายผู้ถึงให้นิสแมนยืมปืนพกเบอร์ซาขนาด .22 ที่ได้กลายเป็นอาวุธปลิดชีพเขาในเวลาต่อมา อาจต้องถูกจำคุกถึง 6 ปี โดยอัยการอาร์เจนตินาวิเวียน ไฟน์ ได้ประกาศข้อกล่าวหาเมื่อวานนี้(26) แต่ไม่ได้ระบุชัดว่า เชื่อว่าอาวุธที่ถูกใช้นั้นในเหตุหาตกรรมหรือเหตุฆ่าตัวตาย โดยเชื่อกันว่าชายผู้นี้เป็นผู้พบนิสแมนครั้งสุดท้ายในขณะมีชีวิต โดยลาโกมาร์ซิโนให้กปากคำว่า นิสแมนร้องขอยืมปืนจากเขาด้วยเกรงสวัสดิภาพความปลอดภัยของชีวิต
อย่างไรก็ตามในคดีการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของนิสแมน เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์กล่าวหาลาโกมาร์ซิโนว่าเป็นอุปสรรคสำคัญในการดำรงตำแหน่งผู้นำอาร์เจนตินาของเธอ จากการที่เขาได้ทวีตข้อความดูหมิ่นเธอ และมีญาติที่ทำงานในสำนักงานกฎหมายที่ถือหุ้นในแคลริน(Clarin) กลุ่มธุรกิจมีเดียที่เป็นปรปักษ์กับเฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์มาหลายปี นอกจากนี้ สื่ออาร์เจนตินายังเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ ลาโกมาร์ซิโนทำงานให้กับสำนักเลขาธิการข่าวกรองอาร์เจนตินา ถึงแม้ว่าตัวผู้นำหญิงไม่ได้เอ่ยถึงความเกี่ยวข้องนี้
ทั้งนี้หนึ่งในการปฎิรูปโครงสร้าง อำนาจและความลับผิดชอบของการดักฟังเพื่อหาข่าาวแต่เดิมที่ขึ้นกับหน่วยงานสำนักเลขาธิการข่าวกรองอาร์เจนตินา ผู้นำหญิงเปิดเผยว่าจะมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุดอาร์เจนตินารับผิดชอบแทน โดยนักวิจารณ์ต่างวิพากษ์ในแผนการครั้งนี้ว่า เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ที่จะสิ้นสุดอำนาจภายในปีนี้ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะปรับโครงสร้างมาจนถึงนาทีนี้ และการกระทบกระทั่งระหว่างเธอและหน่วยงานข่าวกรองอาร์เจนตินาทำให้กองทัพอาร์เจนตินาสามารถขยายอิทธิพลการสอดแนมได้เพิ่มมากขึ้น