เอเอฟพี - วานนี้ (4 ก.พ.) ผู้เชี่ยวชาญในประเด็นการฆ่าล้างเผาพันธุ์ชาวยิว ซึ่งเป็นที่ยอมรับได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิพากษาในคดีลอบวางระเบิดศูนย์ชุมชนชาวยิว เมื่อปี 1994 ที่กำลังสร้างความสั่นสะเทือนให้แก่อาร์เจนตินา นับตั้งแต่หัวหน้าอัยการในคดีนี้จบชีวิตอย่างปริศนา
คดีนี้ได้กลายเป็นปัญหาหนักของศาล ในยามที่มีการเปิดเผยว่า อัยการ อัลเบร์โต นิสแมน ผู้ล่วงลับไปแล้วได้ร่างหมายจับประธานาธิบดี กริสตินา กีร์ชเนร์ แห่งอาร์เจนตินาทิ้งไว้ ก่อนที่จะมีผู้พบร่างไร้วิญญาณของเขาในอพาร์ตเมนต์ เมื่อเดือนก่อน โดยผลการชันสูตรศพเบื้องต้นชี้ว่า เขาเสียชีวิตด้วยกระสุนนัดเดียวที่เจาะเข้ากลางหน้าผาก
ผู้พิพากษา 3 คนได้ขอถอนตัวจากคดีซึ่งกำลังครอบงำสถานการณ์ในอาร์เจนตินา นับแต่อัยการนิสแมน วัย 51 ปีถูกพบเสียชีวิต เพียงไม่กี่วันก่อนเข้าร่วมการไต่สวนรัฐสภาอาร์เจนตินา เพื่อเอาผิดประธานาธิบดีกีร์ชเนร์ว่า ปกป้องเจ้าหน้าที่อิหร่านที่พัวพันการก่อเหตุระเบิดศูนย์ชาวยิวเมื่อปี 1994 ซึ่งนับเป็นคดีก่อการร้ายที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของอาร์เจนตินา
ในท้ายที่สุด เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในศาลชั้นต้นได้ฝ่าทางตันนี้ ด้วยการแต่งตั้งหนึ่งในผู้พิพากษาสามคนนี้ คือ ดาเนียล ราเฟกาส ให้เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้
ในขณะเดียวกันประชาชนชาวอาร์เจนตินาราว 2,000 คนได้รวมตัวประท้วง พร้อมถือป้ายที่มีข้อความว่า “อภัยโทษมากพอแล้ว” ขณะเดินขบวนในกรุงบัวโนสไอเรส เพื่อเรียกร้องคำตอบให้แก่เงื่อนงำของการเสียชีวิตของอัยการนิสแมน
อดอลโฟ เปเรซ เอสกีเวล เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพชาวอาร์เจนตินา ซึ่งเข้าร่วมการเดินขบวนเรียกร้องให้ทางการตั้งคณะกรรมการอิสระสืบสวนคดีนี้ระบุว่า “ผมคิดว่าในท้ายที่สุดเราก็จะได้รับรู้ความจริง”
ทั้งนี้ ตามผลสำรวจความคิดเห็น ประชากรชาวอาร์เจนตินาร้อยละราว 70 เชื่อว่า พวกเขาจะไม่มีวันรู้เบื้องหลังการตายของนิสแมน
ราเฟกาส ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษชน เคยเขียนงานวิจัยในประเด็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว จนสามารถคว้ารางวัลจากองค์กรชาวยิว 3 แห่งของอาร์เจนตินา ได้แก่ บีไน บริต อาร์เจนตินา, สมาคมชาวยิวอาร์เจนตินา และมูลนิธิพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวบัวโนสไอเรส
นอกจากนี้ เขายังสร้างชื่อจากการพิจารณาคดีการละเมิดสิทธิโดยทหารในกองทัพอาร์เจนตินา ในช่วงที่ชาติลาตินอเมริกาแห่งนี้อยู่ภายใต้การปกครองของผู้นำเผด็จการระหว่างปี 1976 ถึง 1983
เหตุระเบิดที่มูลนิธิการกุศล “Argentine Jewish Mutual Association” (AMIA) ได้คร่าชีวิตประชาชนไป 85 ราย และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 300 คน จนนับได้ว่าเป็นการก่อเหตุโจมตีครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อาร์เจนตินา
คดีนี้ก็ไม่เคยถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มรูปแบบ ในขณะที่การนัดสืบพยานก่อนพิจารณาคดีก็ถูกยกเลิกไปหลายนัด ในยามที่พบว่ามีสิ่งไม่ชอบมาพากลอย่างรุนแรงเกี่ยวกับผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาร์เจนตินา จนกระทั่งเมื่อปี 2006 นิสแมนได้รับมอบหมายให้รื้อคดีนี้
นิสแมน เคยกล่าวหาอิหร่านว่า เป็นผู้บงการให้กลุ่มติดอาวุธ “ฮิซบอลเลาะห์” ซึ่งมีเลบานอนคอยหนุนหลังก่อเหตุโจมตีครั้งนั้น และขอให้ศาลออกหมายจับเจ้าหน้าที่อิหร่าน 5 คน รวมทั้งอดีตประธานาธิบดี อักบาร์ ฮาเชมี รัฟซันจานี แห่งอิหร่าน
เมื่อวันที่ 14 มกราคม ก่อนนิสแมนจะเสียชีวิต เขาได้ส่งสำนวนฟ้องความยาว 300 หน้า เพื่อตั้งข้อหาประธานาธิบดีกีร์ชเนร์ และและเฮกเตอร์ ทิมเมอร์แมน รัฐมนตรีต่างประเทศอาร์เจนตินา ตลอดจนเจ้าหน้าที่อาวุโสอีกคนหนึ่ง ฐานพยายามปกป้องผู้ต้องสงสัยชาวอิหร่าน เพื่อแลกกับน้ำมันจากเตหะราน
นอกจากนี้ อัยการบิเบียนา เฟย์น ซึ่งเป็นผู้สืบหาสาเหตุการตายของนิสแมน ได้จุดประกายให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ลุกลามบานปลายออกไป เมื่อเธอปฏิเสธว่า นิสแมนไม่เคยร่างหมายจับ กีร์ชเนร์
ทว่า ต่อมา เฟย์นได้ออกมายอมรับว่า มีการตรวจพบหมายจับถูกที่อพาร์ตเมนต์ของนิสแมนจริง พร้อมทั้งยืนกรานว่าไม่ได้ปกปิดเรื่องนี้ เพราะถูกรัฐบาลอาร์เจนตินากดดัน