รอยเตอร์ – รัฐบาลซีเรียเต็มใจที่จะระงับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่เมืองอะเลปโปทางตอนเหนือของประเทศเป็นเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อทดสอบการหยุดยิงในระดับท้องถิ่น ผู้แทนเจรจาว่าด้วยปัญหาซีเรียจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงเมื่อวานนี้(17 ก.พ.)
อะเลปโปถือเป็นสมรภูมิการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างกองกำลังฝ่ายรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด กับกลุ่มติดอาวุธกลายฝ่าย ทั้งพวกที่ได้รับการหนุนหลังจากตะวันตก และ อัล-นุสรา ฟรอนท์ ซึ่งเป็นเครือข่ายอัลกออิดะห์
กองทัพซีเรียซึ่งได้การสนับสนุนจากกลุ่มติดอาวุธพันธมิตร สามารถยึดคืนหมู่บ้านได้หลายแห่งใกล้ๆ กับอะเลปโป และมีเป้าหมายที่จะปิดล้อมเมืองดังกล่าวเพื่อปิดเส้นทางลำเลียงของพวกบฏ
สตัฟฟาน เดอ มิสตูรา ผู้แทนเจรจาจากยูเอ็น ระบุว่า หลังจากนี้จะมีการขอร้องให้ฝ่ายกบฏยุติการยิงปืนครกและจรวดเป็นการชั่วคราว
“รัฐบาลซีเรียแจ้งมาว่า พวกเขาเต็มใจที่จะระงับปฏิบัติการทิ้งระเบิดและยิงถล่มทั่วเมืองอะเลปโปเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ส่วนวันเวลาเริ่มต้นจะประกาศให้ทราบภายหลัง” เดอ มิสตูรา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนหลังเข้ารายงานต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยตัวเขาเตรียมที่จะเดินทางไปยังซีเรียโดยเร็วที่สุด
“ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาเรื่องแบบนี้ยากจะสำเร็จได้... สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสมรภูมิจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า การหยุดยิงได้ผลมากน้อยแค่ไหน และจะสามารถนำไปปรับใช้กับพื้นที่อื่นๆ ได้หรือไม่” เดอ มิสตูรา กล่าว
บาชาร์ อัล-จาฟารี เอกอัครราชทูตผู้แทนซีเรียประจำยูเอ็น ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่แนวร่วมแห่งชาติซีเรีย (Syrian National Coalition - SNC) ซึ่งเป็นองค์กรกลางฝ่ายกบฏ ระบุว่าจะรอฟังข้อเสนอโดยละเอียดจาก เดอ มิสตูรา อีกครั้ง
“ความร่วมมือของระบอบอัสซาดจะถูกตัดสินด้วยการกระทำ ไม่ใช่คำพูด” นาจิบ ฆัตเบียน ผู้แทนพิเศษเอสเอ็นซีประจำยูเอ็น กล่าว
“การกระทำที่ผ่านๆ มาของเขามีแต่ความโหดร้าย และการสร้างความหวาดกลัวเท่านั้น”
นักการทูตเปิดเผยว่า เดอ มิสตูรา ได้พูดคุยกับ อัสซาด อยู่เป็นเวลานานระหว่างเยือนดามัสกัสเมื่อไม่นานมานี้ และพยายามผลักดันให้เกิด “ข้อตกลงหยุดยิงระดับท้องถิ่น” มาตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยจะเริ่มที่เมืองอะเลปโปเป็นแห่งแรก
“ทุกครั้งที่มีการทำข้อตกลงหยุดยิง การสู้รบจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต้องการช่วงชิงความได้เปรียบ... ผมเกรงว่าครั้งนี้ก็จะไม่ต่างกัน” เดอ มิสตูรา กล่าวเตือน
การชุมนุมโดยสันติเพื่อขับไล่ประธานาธิบดี อัสซาด เมื่อกลางเดือนมีนาคม ปี 2011 ได้ลุกลามจนกลายมาเป็นสงครามกลางเมืองที่คร่าชีวิตพลเมืองซีเรียไปแล้วไม่ค่ำกว่า 210,000 คน และยังไม่มีแนวโน้มที่จะยุติลงได้