เอเอฟพี - กลุ่มกบฏโปรรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน ระบุวันนี้ (16 ก.พ.) ว่า พวกเขาจะเริ่มถอนอาวุธจากแนวหน้าภายใต้ข้อตกลงสันติภาพเมื่อมี “การหยุดยิงโดยสมบูรณ์” แล้วเท่านั้น
“ตามข้อตกลงกรุงมินสก์ การถอนอาวุธหนักสามารถเกิดขึ้นได้เพียงภายใต้เงื่อนไขบางประการเท่านั้น และหนึ่งในเงื่อนไขเหล่านั้นถือการหยุดยิงโดยสมบูรณ์” สำนักข่าวอย่างเป็นทางการของกลุ่มกบฏ รายงาน โดยอ้างจากคำพูดของเอดูอาร์ด บาซูริน โฆษกกระทรวงกลาโหมของกลุ่มที่ประกาศตนเองเป็นสาธารณรัฐประชาชนเนตสก์
อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่โดยรอบเมืองเดบัลต์เซฟ เมืองสำคัญที่รัฐบาลยึดครองอยู่ และทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมหยุดยิง
“หากกองทัพยูเครนไม่หยุดยิงและละเมิดข้อตกลงกรุงมินสก์ กองกำลังของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ก็จะไม่ถอนอาวุธออก” บาซูรินกล่าว
ข้อตกลงสันติภาพฉบับล่าสุดที่ได้รับการลงนามในกรุงมินสก์ หลังจากการเจรจาอย่างซับซ้อนระหว่างผู้นำยูเครน, รัสเซีย , ฝรั่งเศส และเยอรมนี ถูกมองว่าเป็นความหวังที่ดีที่สุดในการยุติความขัดแย้งนาน 10 เดือน ที่คร่าชีวิตผู้คนแล้วกว่า 5,480 ราย
วลาดิสลาฟ เซเลซนอฟ โฆษกกองทัพยูเครน บอกกับเอเอฟพีว่า “ในขณะนี้อย่ามาตั้งคำถามว่าเราจะถอนอาวุธหนักออกมา” เพื่อสร้างเขตกันชนซึ่งถูกวางเป้าหมายให้ขยายออกกว้างสุดถึง 140 กิโลเมตร