เอเอฟพี - เรือของสหรัฐฯ กำลังหลบหลีก “ภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมา” เพื่อรุดเข้าช่วยเหลือเรือประมงออสเตรเลีย ซึ่งติดชั้นน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกใต้ หน่วยกู้ภัยระบุวันนี้ (13 ก.พ.)
เรือ “แอนตาร์กติกชีฟเทน” ความยาว 63 เมตรเกิดติดแหงกกับแผ่นน้ำแข็ง ในจุดที่อยู่ห่างจากอ่าว “แม็กเมอร์โดซาวนด์” ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 900 ไมล์ทะเล ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา (10) จนเป็นผลให้ใบพัดเรือชำรุดเสียหาย ศูนย์ประสานงานการช่วยชีวิตนิวซีแลนด์ระบุในคำแถลง
อย่างไรก็ดี หน่วยงานของแดนกีวีกล่าวว่าลำตัวของเรืออวนลากลำนี้ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ในขณะที่ลูกเรือทั้ง 26 คนยังคงปลอดภัยดี
เกรก จอห์นสตัน ผู้ประสานงานในภารกิจช่วยชีวิตชี้ว่า “ลูกเรือบนเรือปลอดภัยดี พวกเขามีเสบียงมากมาย และเรือลำนี้ยังมีสภาพโดยรวมสมบูรณ์” พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่า ไม่มีน้ำมันรั่วลงไปในพื้นที่ซึ่งมีสภาพแวดล้อมอ่อนไหวต่อมลพิษแห่งนี้
เขากล่าวว่า บัดนี้เรือตัดน้ำแข็ง “โพลาร์สตาร์” ของสหรัฐฯ ได้แล่นไปถึงจุด ที่อยู่ห่างออกไปราว 100 ไมล์ทะเล และน่าจะเดินทางไปถึงเรือที่ประสบเหตุอย่างเร็วที่สุดในค่ำวันนี้ (13) หรือรุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ (14)
กัปตัน แมทธิว วอล์กเกอร์ ผู้บังคับการเรือตัดน้ำแข็งแดนอินทรีให้สัมภาษณ์ว่า “เรากำลังเดินทางลัดเลาะผ่านน้ำแข็งที่จับตัวหนา และหลบเลี่ยงภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมา ... เพื่อข้ามไปยังอีกฝั่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายไมล์ บ่อยครั้งเราต้องประสบปัญหาทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำมาก”
เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง “โพลาร์สตาร์” จะช่วยนำเรืออวนลากแดนจิงโจ้ฝ่าดงน้ำแข็งออกมา เพื่อลากจูงกลับเข้าฝั่ง เนื่องจากใบพัดของเรือประมงลำนี้ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถแล่นด้วยกำลังของตัวเองได้เอง
นอกจากนี้ จอห์นสตันยังระบุว่า เรือประมงชักธงนิวซีแลนด์ “จานาส” ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 750 ไมล์ทะเล กำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่เกิดเหตุเพื่อตามประกบ หรือช่วยลากเรือของออสเตรเลียไปส่งยังท่าเรือที่ปลอดภัยและใกล้ที่สุด
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า มีลูกเรือมาอยู่บนเรือที่ประสบเหตุทั้งหมด 27 คน แต่จอห์นสตันระบุว่า 26 คน โดยครึ่งหนึ่งเป็นชาวนิวซีแลนด์
เรือแอนตาร์กติกชีฟเทน ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 2002 ได้รับใบอนุญาตให้ตกปลาหิมะ (Patagonian toothfish ) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เติบโตช้า และมีโปรตีนต้านการเยือกแข็งในเลือดไว้ต่อสู้กับสภาพอากาศอันโหดร้ายแถบขั้วโลกใต้
บริษัท “ออสเตรเลียนลองไลน์” ซึ่งเป็นเจ้าของเรือลำนี้ ระบุทางเว็บไซต์ของกิจการว่า เรือลำนี้แกร่วตกปลาที่มีราคาแพงระยับจนถูกขนานนามว่า “ทองคำขาว” ในน่านน้ำแถบขั้วโลกใต้มานาน 6 เดือนแล้ว
เมื่อปี 2010 เคยมีเรือตกปลาหิมะของเกาหลีใต้จมลงในบริเวณเดียวกันนี้ จนเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน และกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่แดนกีวี ซึ่งเปิดฉากไต่สวนคดีนานนับปี ต้องดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น กับเรือที่แล่นผ่านน่านน้ำที่เย็นเยือกเป็นน้ำแข็ง