ศาลฮ่องกงตัดสินให้ “นายจ้างหญิง” พ้นผิดคดีเฉือนนิ้วแม่บ้านอิเหนา

เอเอฟพี - ศาลฮ่องกงวันนี้ (12 ก.พ.) ตัดสินให้หญิงคนหนึ่ง “พ้นผิด” จากข้อกล่าวหาใช้มีดเฉือนนิ้วแม่บ้านชาวอินโดนีเซีย โดยนับเป็นคดีล่าสุดที่สะท้อนถึงความกังวลต่อปัญหาการทารุณกรรมลูกจ้างต่างชาติในบ้าน ในจุดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจนานาชาติแห่งนี้

หงาน ซุกไว่ (Ngan Suk-wai) หญิงชาวฮ่องกงวัย 40 ปี ถูกกล่าวหาว่าใช้มีดทำร้าย อานิส อันดรียานี เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เมื่อแม่บ้านหญิงผู้นี้ฉวยด้ามไม้กวาดขึ้นมาขู่สุนัขในบ้านให้หยุดเห่า

อัยการระบุว่า ในเวลานั้นหงานได้ลากอานิสเข้าไปในครัว ก่อนจะดึงมือเธอกดลงบนเขียงแล้วจะใช้มีดเฉือนนิ้วนางของลูกจ้างหญิงวัย 26 ปี

อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาศาลแขวง แกรี ลัม ชี้ว่า โจทก์มีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์คำให้การ พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่าบาดแผลรอบๆ นิ้วของอานิสยังไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าเธอถูกทำร้ายจริง

อัยการกล่าวต่อศาลว่า “ถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่าเธอได้รับบาดเจ็บจริง แต่ก็ยังไม่สามารถไขข้อสงสัยได้ว่า เธอได้บาดแผลนี้มาอย่างไร และใครเป็นคนทำ”

เมื่อได้ยินคำตัดสินของศาล หงาน ก็เปล่งเสียงอุทานด้วยความดีอกอีใจ พร้อมตะโกนก้องในห้องพิจารณาคดีว่า “ตอนนี้ความจริงเปิดเผยแล้ว”

ทั้งนี้ หากศาลตัดสินว่าเธอมีความผิดจริง หญิงชาวฮ่องกงรายนี้จะถูกระวางโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี

ขณะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่มารอทำข่าวอยู่ด้านนอก หงานกล่าวว่า คำพิพากษาวันนี้ (12) เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า “นายจ้างไม่ได้เลวเหมือนกันทุกคนไป” และ “สภาพจิตใจของเธอก็บอบช้ำ” ที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเช่นนี้

ศาลฮ่องกงมีคำตัดสินเช่นนี้ หลังไม่กี่วันก่อน มีหญิงฮ่องกงคนหนึ่งถูกพิพากษาว่า มีความผิดฐานกระทำทารุณ แม่บ้านชาวอินโดนีเซียชื่อ เออร์เวียนา สุลิสเตียนิงซิห์ และปล่อยให้ลูกจ้างผู้นี้อดข้าวอดน้ำ ในคดีที่สะท้อนให้เห็นถึงชะตากรรมของแม่บ้านชาวต่างชาติ 300,000 คนในฮ่องกง

แม้ว่าแม่บ้านชาวต่างชาติในฮ่องกงนั้นจะมีหลักประกันค่าแรงขั้นต่ำ และสวัสดิการสังคมดีกว่าประเทศใดๆ ในทวีปเอเชีย และภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่นักวิจารณ์ระบุว่า คดีของสุลิสเตียนิงซิห์ ได้สะท้อนให้เห็นว่า การบังคับใช้กฎหมายแรงงานในฮ่องกงนั้นหย่อนยานเพียงใด

เมื่อวันอังคาร (10) หลอ วันตุง ซึ่งเป็นแม่ลูกสองถูกศาลฮ่องกงตัดสินว่า มีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย และปล่อยให้แม่บ้านชาวอิเหนาวัย 24 ปีอดข้าวอดน้ำนานหลายเดือน จนกระทั่งเธอต้องถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ในคดีที่จุดชนวนให้เกิดกระแสแค้นเคืองไปทั่วอินโดนีเซีย และสร้างความตกตะลึงแก่ชาวฮ่องกง

ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำเมื่อปี 2013 เผยให้เห็นว่า มีแม่บ้านชาวต่างชาติเกือบ 1 ใน 5 จากจำนวนทั้งสิ้นกว่า 3,000 คนในฮ่องกงมีประวัติถูกทำร้ายร่างกาย ในขณะร้อยละ 58 ถูกประทุษร้ายด้วยวาจา