xs
xsm
sm
md
lg

‘ออสซี’ ระบุสกัดแผนก่อการร้ายหวุดหวิด นายกฯ เตือนสาวก IS ไม่ยอมรามือง่ายๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แคเทอรีน เบิร์น รองผู้บัญชาการตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ แถลงเมื่อวันพุธ (11 ก.พ.) ว่า การโจมตีที่ผู้ต้องสงสัยวางแผนก่อเหตุขึ้นในวันอังคาร (10) นั้น สอดคล้องกับข้อความปลุกระดมก่อนหน้านี้ของกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส)
เอเจนซีส์ - ทางการออสเตรเลียแถลงว่า สามารถสกัดการก่อการร้ายได้สำเร็จแบบหวุดหวิด หลังหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายได้บุกเข้าจับกุมชาย 2 คนในเมืองซิดนีย์ พร้อมยึดมีด ธงไอเอส และคลิปภาษาอาหรับที่ประกาศก่อการโจมตี ทางด้านนายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือการก่อเหตุของสาวกกลุ่มหัวรุนแรงนี้ที่คาดว่าจะยังเกิดขึ้นอีกในอนาคต

แคเทอรีน เบิร์น รองผู้บัญชาการตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ แถลงเมื่อวันพุธ (11 ก.พ.) ว่า การโจมตีที่ผู้ต้องสงสัยวางแผนก่อเหตุขึ้นในวันอังคาร (10) นั้น สอดคล้องกับข้อความปลุกระดมก่อนหน้านี้ของกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) อย่างไรก็ดี ต่อข้อถามที่ว่า แผนการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการฆ่าตัดคอหรือไม่ เบิร์นตอบว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ รู้เพียงว่าผู้ต้องสงสัยวางแผนใช้มีดเป็นอาวุธ

หน่วยเฉพาะกิจต่อต้านการก่อการร้ายร่วมได้บุกเข้าจับกุม โอมาร์ อัล-คูโตบี วัย 24 ปี และโมฮัมหมัด คิอัด วัย 25 ปี จากที่พักของพวกเขาซึ่งอยู่ในด้านตะวันตกของนครซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เมื่อวันอังคารหลังจากได้รับแจ้งเบาะแส และได้ตั้งข้อหาชายทั้งคู่ว่า เตรียมการก่อการร้าย ภายหลังตรวจค้นพบมีดสปาร์ตา มีดพับ ธงไอเอสที่ทำขึ้นเอง และวิดีโอที่เป็นภาพชายคนหนึ่งกำลังพูดถึงการวางแผนโจมตี

คูโตบี และคิอัด ที่รายงานระบุว่าเป็นมุสลิมเคร่งศาสนา ปฏิเสธไม่ยื่นประกันตัว ขณะที่การพิจารณาคดีเบื้องต้นของศาลได้เลื่อนไปเป็นวันพฤหัสบดี (12) ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

ทางด้าน จอร์จ แบรนดิส รัฐมนตรียุติธรรมออสเตรเลีย แถลงต่อรัฐสภาว่า วิดีโอที่ยึดได้เป็นภาพผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งคุกเข่าหน้าธงไอเอสพร้อมมีดสปาร์ตาและมีดพก และประกาศเป็นภาษาอาหรับว่าจะก่อความรุนแรงด้วยอาวุธดังกล่าว

เบิร์นเสริมว่า ผู้ต้องหาทั้งคู่ไม่อยู่ในกลุ่มบุคคลที่ต้องเฝ้าระวังของทางการ และขณะนี้ก็ยังไม่รู้เป้าหมายการโจมตีที่ทั้งคู่วางไว้ว่า เป็นตำรวจ ทหาร หรือประชาชนทั่วไป

ส่วน ไมค์ เบียร์ด นายกรัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สามารถป้องกันหายนะร้ายแรงได้อย่างหวุดหวิด

อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีแอ็บบอตต์ของออสเตรเลีย เตือนว่า ออสเตรเลียต้องเตรียมพร้อมรับมือแผนการโจมตีของสาวกไอเอสที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นอีกในอนาคต

เบิร์นขานรับว่า เหตุการณ์นี้บ่งชี้ภัยคุกคามที่ออสเตรเลียกำลังเผชิญอยู่และต้องหาทางจัดการ

เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ออสเตรเลียเพิ่มระดับเตือนภัยการก่อการร้าย และตำรวจระดมตรวจค้นครั้งใหญ่ในเมืองซิดนีย์และเมืองบริสเบนเพื่อสกัดแผนการโจมตีของผู้สนับสนุนไอเอส หลังจากที่ออสเตรเลียเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยอเมริกาเปิดการโจมตีทางอากาศต่อที่มั่นไอเอสในอิรัก

เดือนเดียวกันนั้น ตำรวจออสเตรเลียได้วิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย ที่แทงตำรวจ 2 นายได้รับบาดเจ็บในเมืองเมลเบิร์น หลังจากก่อนหน้านั้นหนึ่งวันไอเอส เรียกร้องให้ชาวมุสลิมทั่วโลกสังหารชาวออสเตรเลียโดยไม่เลือกหน้า

จากนั้นในเดือนธันวาคม เกิดเหตุชายผู้อพยพชาวอิหร่าน แมน ฮารอน โมนิส ที่มีแนวคิดสุดโต่ง บุกยึดคาเฟ่แห่งหนึ่งในซิดนีย์และจับตัวประกัน 17 คนเอาไว้นาน 16 ชั่วโมง โดยวิกฤตตัวประกันคราวนี้จบลงหลังจากโมนิส ยิง ทอรี จอห์นสัน ผู้จัดการร้านเสียชีวิต ตำรวจจึงบุกเข้าไปและสังหารมือปืนอิสลามิสต์รายนี้ โดยมีตัวประกันหญิงอีกคนเสียชีวิตจากสะเก็ดกระสุนของตำรวจ

ทั้งนี้ ออสเตรเลียเชื่อว่า มีพลเมืองของตนอย่างน้อย 70 คนเข้าร่วมสู้รบกับไอเอสในซีเรียและอิรักในขณะนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจาก “ผู้อำนวยความสะดวก” ราว 100 คนในออสเตรเลีย โดยประเด็นที่เป็นกังวลคือ นักรบเหล่านี้อาจย้อนกลับมาก่อเหตุในบ้านเกิด


กำลังโหลดความคิดเห็น