รอยเตอร์ - กลุ่มติดอาวุธ “โบโกฮารัม” ซึ่งก่อเหตุโจมตีและสังหารพลเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย อาจมีนักรบหัวรุนแรงระดับ “ฮาร์ดคอร์” ระหว่าง 4,000-6,000 คน เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯเผยเมื่อวันศุกร์ (6 ก.พ.)
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อระบุว่า นักเรียนหญิงไนจีเรียราว 300 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันตั้งแต่ปีที่แล้วยังคงอยู่ในเงื้อมมือของโบโกฮารัม และถูกส่งกระจัดกระจายไปยังที่ต่างๆ
การโจมตีของนักรบโบโกฮารัมในช่วงปีที่ผ่านมาทำให้มีผู้คนถูกสังหารไปกว่า 10,000 คน และจัดเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดสำหรับประเทศซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 1 และมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในแอฟริกา
อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ มองว่ากลุ่มติดอาวุธซึ่งก่อเหตุโจมตี สังหาร และลักพาตัวพลเมืองไนจีเรียรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีศักยภาพถึงขั้นเป็นอันตรายต่อแหล่งน้ำมันในภาคใต้ของไนจีเรีย
เหตุความไม่สงบกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้นำพรรคฝ่ายค้านอย่าง มูฮัมมาดู บูฮารี กลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับประธานาธิบดี กู๊ดลัก โจนาธาน ก่อนที่ชาวไนจีเรียจะมีโอกาสออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้
ชาวไนจีเรียส่วนใหญ่มองว่า บูฮารีซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารเก่าน่าจะสามารถปฏิรูปกองทัพให้มีศักยภาพพอจะรับมือกลุ่มโบโกฮารัม และในฐานะชาวมุสลิมคนหนึ่ง อาจจะช่วยต้านทานการเผยแพร่แนวคิดสุดโต่งของโบโกฮารัมได้บ้าง
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ชี้ว่า กองทัพไนจีเรียใช้ทรัพยากรอย่างเต็มพิกัดแล้วในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธในประเทศ และยังต้องมีส่วนร่วมในภารกิจรักษาสันติภาพต่างแดนด้วย ทว่าระยะหลังๆ เพื่อนบ้านอย่างแคเมอรูน ชาด และไนเจอร์ ซึ่งโบโกฮารัมแผ่ขยายอิทธิพลไปถึงก็เริ่มส่งกำลังทหารเข้ามาช่วยปราบปรามมากขึ้น
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า “ต้องรอดูกันต่อไปว่าโบโกฮารัมจะมียุทธวิธีที่เหนือกว่าหรือไม่” ในการต่อสู้กับทหารอาชีพ
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โบโกฮารัมได้สร้าง “แหล่งกบดาน” ในดินแดนที่พวกเขายึดครองไว้ได้ ซึ่งคิดเป็นเมืองและหมู่บ้านประมาณ 30 กว่าแห่ง
โบดกฮารัมซึ่งชูเป้าหมายสูงสุดในการก่อตั้งรัฐอิสลาม ยังได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสรรเสริญการกระทำของกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย แต่เจ้าหน้าที่อเมริกันระบุว่า “ยังไม่เห็นความร่วมมือทางยุทธวิธี หรือการติดต่อระหว่างผู้นำกลุ่มติดอาวุธทั้งสอง”