เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ระบุในวันนี้ (4 ก.พ.) ว่าได้จับกุมชายชาวออสเตรเลีย ด้วยข้อกล่าวหาทำการฆาตกรรมวัยรุ่นสาวชาวฟิลิปปินส์ หลังจากพบศพเหยื่ออยู่ภายในห้องของโมเต็ลแห่งหนึ่ง
เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นวัยรุ่นสาวอายุ 17 ปี มีชื่อว่า อโลนา อัลวาเรซ ศพของเธอถูกพบโดยพนักงานของโมเต็ลแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเมืองทางตอนใต้ที่ชื่อว่า ดิโปล็อก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา
ตำรวจเปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย "อาลี อาลี" วัย 42 ปี ได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่สังหารเหยื่อ โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันตัวและทำไปโดยไม่ทันฉุกคิด
หลังจากที่มีการติดต่อกันแบบออนไลน์ ทั้งคู่ก็พบกันครั้งแรกที่ดิโปล็อก ก่อนที่จะเกิดเหตุฆาตกรรมได้เพียง 2 วัน โดยทางตำรวจบอกว่า อาลี ได้เดินทางมาฟิลิปปินส์เพื่อมาหาอัลวาเรซ
"สภาพใบหน้าของเธอแทบจำเค้าเดิมไม่ได้ ยับเยินจนดูน่ากลัวมาก สัปเหร่อเจองานหนักเลย เธอต้องมาตายอย่างทารุณโหดร้าย มันรุนแรงเกินไปจริงๆ" เจ้าหน้าที่สืบสวน โรนัลด์ ดินกัส บอกเอเอฟพี
ดินกัส อ้างอิงข้อมูลที่ได้จากการชันสูตรของตำรวจ โดยระบุว่า อัลวาเรซ มีแผลลึกที่ศีรษะ ฟันหลุดจนเกือบหมดปาก แถมยังมีอาการตกเลือดในสมอง ซึ่งน่าจะนำไปสู่อาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเสียชีวิต ซึ่งตอนที่มีการพบศพนั้น เธออยู่ในสภาพเปลือย ทั้งยังมีการพบเซ็กส์ทอยและกัญชาอยู่ภายในห้องด้วย
พนักงานของโมเต็ลที่เกิดเหตุได้บอกกับตำรวจว่า ชาวออสเตรเลียคนดังกล่าวได้ทำการเช็คอินเข้าพักพร้อมกับอัลวาเรซเมื่อ 2 วันก่อนที่จะพบศพ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกกับเอเอฟพีว่า อาลีถูกจับกุมเมื่อวันอาทิตย์ ที่เมืองดูมากูเอเต ซึ่งอยู่ห่างจากดิโปล็อกไปประมาณ 75 กิโลเมตร
ผู้ต้องสงสัยรายนี้มีรอยช้ำอย่างมากบริเวณกำปั้น เขาได้บอกกับตำรวจว่า เขาทำร้ายอัลวาเรซหลังจากที่บอกให้เธอทำออรัลเซ็กส์ แล้วเหยื่อดันกัดอวัยวะเพศเขา
"เขาบอกว่าเธอกัดไอ้จ้อนเขา แถมยังโชว์รอยกัดให้พวกเราดูด้วย แล้วก็บอกอีกว่าทำไปเพื่อป้องกันตัว อารมณ์ชั่ววูบลงมือไปโดยไม่ทันคิด ก่อนที่ะโดนจับได้เขากำลังวางแผนจะหนีไปที่มะนิลา" เจ้าหน้าที่บอกกับนักข่าว
อาลีถูกนำตัวกลับไปที่ดิโปล็อก ซึ่งตำรวจในท้องถิ่นได้แจ้งข้อหาฆาตกรรมกับเขา ต่อหน้าอัยการของรัฐประจำท้องถิ่น ชาวออสเตรเลียรายนี้อาจต้องเจอกับโทษจำคุกนาน 40 ปี หากถูกตัดสินว่าผิดจริง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดวันขึ้นศาลพิจารณาคดีของเขา